สวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานที่นายจ้างควรจัดให้มี โดยสวัสดิการคืออะไร มีกี่ประเภท มีอะไรบ้างที่เป็นสวัสดิการตามกฎหมาย และนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ไปดูกันเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
มัดรวมสวัสดิการเจ๋ง ๆ ที่ช่วยมัดใจพนักงานให้อยู่ยาว
สวัสดิการที่ทุกบริษัทต้องมีตามกฎหมายแรงงาน
สวัสดิการ คืออะไร สำคัญอย่างไรกับพนักงานและองค์กร
10 สวัสดิการที่ “พนักงาน” ให้ความสำคัญมากที่สุด
สวัสดิการพนักงานยุคใหม่ ที่พนักงานอยากได้และน่าสนใจ
สวัสดิการคืออะไร
สวัสดิการหรือสวัสดิการแรงงาน คือ การดำเนินการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในด้านกายและใจ มีสุขภาพดี ปลอดภัยในการทำงาน มีความก้าวหน้า และมีความมั่นคงในชีวิต รวมถึงครอบครัวของลูกจ้างด้วย การดำเนินการเพื่อจัดสวัสดิการในสถานประกอบการนั้น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีภารกิจ 3 ประการ ได้แก่:
- กำหนดและพัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการ
- ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการให้มีการจัดสวัสดิการ
- ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
สวัสดิการมีกี่ประเภท
การกำหนดและพัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการนี้ สวัสดิการแรงงานได้ถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- สวัสดิการแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด
- สวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด
โดยรายละเอียดของทั้ง 2 สวัสดิการนั้นมีรายละเอียดดังนี้
สวัสดิการแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด
สวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด เป็นสวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับลูกจ้างหรือพนักงานในสถานประกอบการ
ข้อ 1 สิ่งที่นายจ้างจัดให้มี
ในสถานที่ทำงานของลูกจ้าง ให้นายจ้างจัดให้มีน้ำดื่มสะอาด และห้องน้ำ ตามรายละเอียดดังนี้
- น้ำดื่มสะอาด: นายจ้างต้องจัดน้ำดื่มสะอาดให้ไม่น้อยกว่าหนึ่งจุดสำหรับลูกจ้างทุก 40 คน และเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วน ซึ่งเศษของ 40 คนนั้น หากเกิน 20 คนให้ถือเป็น 40 คน
- ห้องน้ำและห้องส้วม: นายจ้างต้องจัดห้องน้ำและห้องส้วมแยกสำหรับลูกจ้างชายและหญิง ตามจำนวนและรูปแบบที่กฎหมายกำหนด และต้องดูแลความสะอาดทุกวัน นอกจากนี้ หากมีลูกจ้างที่เป็นคนพิการ นายจ้างต้องจัดห้องน้ำและห้องส้วมแยกสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ
ข้อ 2 สิ่งจำเป็นในการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาล
ในสถานที่ทำงานของลูกจ้าง ให้นายจ้างจัดให้มีสิ่งจำเป็นในการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาล ดังต่อไปนี้
2.1 สถานที่ทำงานที่มีพนักงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
สถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างหรือพนักงานตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลในจำนวนที่เพียงพอ ได้แก่ กรรไกร แก้วยาน้ำ/แก้วยาเม็ด เข็มกลัด ถ้วยน้ำ ที่ป้ายยา ปรอทวัดไข้ ปากคีบปลายทู่ ผ้าพันยืด ผ้าสามเหลี่ยม สายยางรัดห้ามเลือด สำลี/ผ้าก๊อซ/ผ้าพันแผล/ผ้ายางปลาสเตอร์ปิดแผล หลอดหยดยา ขี้ผึ้งแก้ปวดบวม ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือโพวิโดน-ไอโอดีน น้ำยาโพวิโดน-ไอโอดีน ชนิดฟอกแผล ผงน้ำตาลเกลือแร่ ยาแก้ผดผื่นที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ ยาแก้แพ้ ยาทาแก้ผดผื่นคัน ยาธาตุน้ำแดง ยาบรรเทาปวดลดไข้ ยารักษาแผลน้ำร้อนลวก ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร เหล้าแอมโมเนียหอม แอลกอฮอล์เช็ดแผล ขี้ผึ้งป้ายตา ถ้วยล้างตา น้ำกรดบอริคล้างตา ยาหยอดตา
2.2 สถานที่ทำงานที่มีพนักงานตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป
สถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างหรือพนักงานทำงานในขณะเดียวกันตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีรายละเอียดดังนี้
- เวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลตาม 2.1
- ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงอย่างน้อย 1 เตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ใน 2.1 ตามความจำเป็นและเพียงพอแก่การรักษาพยาบาล เบื้องต้น
- มีพยาบาลตั้งแต่ระดับพยาบาลเทคนิคขึ้นไปประจำอย่างน้อย 1 คนตลอดเวลาทำงาน
- มีแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งอย่างน้อย 1 คน เพื่อตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมเวลาไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน
2.3 สถานที่ทำงานที่มีพนักงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป
สถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างทำงานในขณะเดียวกันตั้งแต่หนึ่ง 1,000 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีรายละเอียดดังนี้
- เวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลตาม 2.1
- ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงอย่างน้อย 1 เตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ใน 2.1 ตามความจำเป็นและเพียงพอแก่การรักษาพยาบาล เบื้องต้น
- มีพยาบาลตั้งแต่ระดับพยาบาลเทคนิคขึ้นไปประจำอย่างน้อย 2 คนตลอดเวลาทำงาน
- มีแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งอย่างน้อย 1 คน เพื่อตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมเวลาไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน
- ยานพาหนะซึ่งพร้อมที่จะนำลูกจ้างส่งสถานพยาบาลเพื่อให้การรักษาพยาบาลได้ โดยพลัน
ข้อ 3 นายจ้างอาจทำความตกลงเพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาล
นายจ้างอาจทำความตกลงเพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาล ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงและเป็นสถานพยาบาลที่นายจ้างอาจนำลูกจ้าง ส่งเข้ารับการ รักษาพยาบาลได้โดยความสะดวกและรวดเร็ว แทนการจัดให้มีแพทย์ตามข้อ 2.2 หรือข้อ 2.3 ได้โดยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดี มอบหมาย
สวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด
สวัสดิการนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด หมายถึง สวัสดิการหรือผลประโยชน์เพิ่มเติมที่นายจ้างมอบให้แก่พนักงาน นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยวัตถุประสงค์ของสวัสดิการนอกเหนือกฎหมายคือเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ สร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้แก่พนักงาน และส่งเสริมสุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พนักงาน โดยสวัสดิการนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดแบ่งออกเป็น 6 หมวดใหญ่ ๆ ดังนี้
1. สวัสดิการที่มุ่งพัฒนาลูกจ้าง
- การส่งเสริมการศึกษาทั้งในและนอกเวลาทำงาน
- การจัดตั้งโรงเรียนในโรงงาน
- การอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำงานทั้งในและนอกสถานที่ทำงาน
- การจัดให้มีห้องสมุด หรือมุมอ่านหนังสือเป็นต้น
2. สวัสดิการที่ช่วยเหลือในเรื่องค่าครองชีพ
- การจัดตั้งร้านค้าสวัสดิการหรือสหกรณ์ร้านค้า
- การให้เงินช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานบวช งานศพ
- การจัดชุดทำงาน
- การจัดหอพัก
- การจัดให้มีรถรับ-ส่งพนักงาน
- เงินโบนัส ค่าครองชีพ เบี้ยขยัน ค่าเข้ากะ
3. สวัสดิการที่ช่วยเหลือการออมของลูกจ้าง
- สหกรณ์ออมทรัพย์
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
4. สวัสดิการที่พัฒนาสถาบันครอบครัวของลูกจ้าง
- การจัดสถานเลี้ยงดูบุตรของลูกจ้าง
- การช่วยค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว
- การช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตรของลูกจ้าง
- การประกันชีวิตให้กับลูกจ้าง
5. สวัสดิการที่ส่งเสริมความมั่นคงในอนาคต
- เงินบำเหน็จ
- เงินรางวัลทำงานนาน
- ให้ลูกจ้างซื้อหุ้นของบริษัท
- กองทุนฌาปนกิจ
- เงินกู้เพื่อสวัสดิการที่พักอาศัย
6. สวัสดิการนันทนาการและสุขภาพอนามัย
- การจัดทัศนศึกษา
- การแข่งขันกีฬา
- การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พนักงาน
- การให้ความรู้เรื่องสุขภาพอนามัย
สรุปสวัสดิการคืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
สวัสดิการ คือ การดำเนินการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ลูกจ้างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในด้านกายและใจ มีสุขภาพดี ปลอดภัยในการทำงาน โดยสวัสดิการนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สวัสดิการแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด และสวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด