ทำความรู้จักกับ Full-Time Equivalent (FTE) หน่วยวัดที่ช่วยให้องค์กรจัดสรรเวลาการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมวิธีการคำนวณและประโยชน์ในการจัดการทรัพยากรบุคคล

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

FTE คืออะไร

FTE (Full-Time Equivalent) คือ หน่วยการวัดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเปรียบเทียบจำนวนพนักงานทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยการคำนวณเทียบเท่ากับจำนวนพนักงานเต็มเวลา (Full-Time Employee) หน่วย FTE ช่วยให้องค์กรสามารถวัดจำนวนบุคลากรทั้งพนักงานเต็มเวลาและพนักงาน part time ได้ในรูปแบบเดียวกัน โดยใช้เกณฑ์จำนวนชั่วโมงทำงานของพนักงานเต็มเวลาเป็นฐาน ตัวอย่างเช่น หากพนักงานเต็มเวลาทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พนักงาน part time ที่ทำงาน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จะเท่ากับ 0.5 FTE

วิธีการคำนวณ FTE

สูตรพื้นฐานในการคำนวณ FTE หรือค่าเทียบเท่าพนักงานเต็มเวลา มีดังนี้

FTE = จำนวนชั่วโมงรวมในหนึ่งสัปดาห์ X ช่วงเวลา

สำหรับการจ้างงานโดยทั่วไป พนักงานเต็มเวลาหนึ่งคนจะทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ดังนั้น ชั่วโมงการทำงานเต็มเวลาที่ต้องทำใน 1 ปี (52 สัปดาห์) จะมีค่าเท่ากับ 40 X 52 = 2,080 ชั่วโมง

ตารางเทียบค่า 1 FTE ในแต่ละช่วงเวลา

การคำนวณ FTE หรือค่าเทียบเท่าพนักงานเต็มเวลา สามารถนำมาเป็นหลักการในการคำนวณจำนวนชั่วโมงเพื่อจัดสรรเวลาการทำงานให้กับพนักงาน part time โดยภาระงาน 1 FTE อาจใช้คนทำมากกว่า 1 คน โดยเรียกว่าพนักงาน part time งาน 1 FTE อาจจะจัดให้ พนักงาน part time 3 คนทำ ดังตัวอย่างเช่น

บริษัทจ้างพนักงาน part time 3 คน โดยงาน 1 FTE แบ่งให้นาย A ทำ 0.4 FTE นาย B และนาย C ทำคนละ 0.3 FTE เมื่อนำจำนวน FTE มารวมกันจะได้ 1 FTE (จ้าง 1 แรง แต่ใช้ 3 คนทำ) ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ นาย A จะต้องทำงาน 0.4 X 40 = 16 ชั่วโมง นาย B และนาย C จะต้องทำงานคนละ 0.3 X 40 = 12 ชั่วโมง

ประโยชน์ของ FTE ในการจัดการทรัพยากรบุคคล

FTE (Full-Time Equivalent) เครื่องมือสำคัญในการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์และวางแผนการใช้กำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

1. การวางแผนกำลังคนในองค์กร

FTE ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินจำนวนบุคลากรที่ต้องการเพื่อให้สอดคล้องกับภาระงานในแต่ละตำแหน่ง การรู้จำนวน FTE ที่แน่นอนจะช่วยในการกำหนดว่าจำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่มเติมหรือปรับตำแหน่งอย่างไรเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. การจัดการภาระงานและวิเคราะห์ปริมาณงาน

FTE ช่วยให้องค์กรตรวจสอบภาระงานของพนักงานว่าเหมาะสมหรือไม่ ด้วยการเปรียบเทียบภาระงานของพนักงานแต่ละคนกับจำนวนชั่วโมงทำงานเต็มเวลา สิ่งนี้ทำให้องค์กรสามารถแบ่งปันงานได้อย่างยุติธรรม และป้องกันไม่ให้พนักงานทำงานหนักเกินไปหรือน้อยเกินไป

3. การวางแผนงบประมาณและบริหารค่าใช้จ่ายบุคลากร

FTE เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวางแผนงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายด้านทรัพยากรบุคคล องค์กรสามารถคำนวณเงินเดือนและสวัสดิการได้อย่างแม่นยำจากจำนวน FTE ที่คาดการณ์ไว้ ช่วยให้การจัดการงบประมาณมีความยืดหยุ่นและควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น

4. การประเมินผลการดำเนินงานและบริหารประสิทธิภาพการทำงาน

FTE เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวัดและประเมินผลการทำงานของพนักงานในระดับต่างๆ ทำให้องค์กรสามารถติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพของพนักงานได้ตามที่ต้องการ การใช้ FTE ยังช่วยให้สามารถวัดประสิทธิภาพของทั้งทีมและรายบุคคลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

5. การวิเคราะห์กำลังคนเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน

FTE ช่วยให้องค์กรมองเห็นภาพรวมของการจัดสรรกำลังคนในทีม และสามารถวิเคราะห์ว่ามีการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ สิ่งนี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานได้โดยการระบุจุดที่อาจมีการขาดแคลนหรือมีพนักงานมากเกินไปในบางส่วนขององค์กร

6. การจัดสรรทรัพยากรและเวลาของพนักงานอย่างเหมาะสม

การคำนวณ FTE ช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรและเวลาของพนักงานได้อย่างเหมาะสม การรู้ว่าพนักงานทำงานเต็มเวลาหรือพาร์ทไทม์เท่าไรจะช่วยให้สามารถจัดการโครงการต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และช่วยให้การทำงานมีความสมดุลมากขึ้น

7. การปรับใช้ FTE ในการวางแผนบุคลากรระยะยาว

FTE ช่วยในการคาดการณ์ความต้องการบุคลากรในอนาคต ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับการจ้างงานเพิ่มเติมหรือการฝึกอบรมพนักงานให้ตรงกับทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต

สรุป FTE คืออะไร วิธีคำนวณและประโยชน์ในการจัดการทรัพยากรบุคคล

FTE (Full-Time Equivalent) คือ หน่วยการวัดที่ใช้ในองค์กรเพื่อเปรียบเทียบจำนวนพนักงานทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีสูตรพื้นฐานในการคำนวณ คือ FTE = จำนวนชั่วโมงรวมในหนึ่งสัปดาห์ X ช่วงเวลา FTE มีประโยชน์ต่องานด้านจัดการทรัพยากรบุคคลหลายประการ ได้แก่ การวางแผนกำลังคนในองค์กร การจัดการภาระงานและวิเคราะห์ปริมาณงาน การวางแผนงบประมาณและบริหารค่าใช้จ่ายบุคลากร การประเมินผลการดำเนินงานและบริหารประสิทธิภาพการทำงาน การวิเคราะห์กำลังคนเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน การจัดสรรทรัพยากรและเวลาของพนักงานอย่างเหมาะสม และการปรับใช้ FTE ในการวางแผนบุคลากรระยะยาว