บทความนี้เรามีวิธีการกำหนด KPI อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้องค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ระยะยาวได้มาแนะนำพร้อมตั้งตัวอย่างของ KPI บริษัท จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
- ประเมิน KPI ทำอย่างไรให้ถูกต้องและเห็นผลมากที่สุด
- KPI คืออะไร? ประเมินผลงานเพื่อคุณภาพขององค์กร
- OKR vs KPI ต่างกันอย่างไร? ควรใช้อันไหนจึงจะเหมาะสมกับองค์กร
- OKR คืออะไร? ทำไมองค์กรระดับโลกถึงเลือกใช้
ความสำคัญของ KPI ต่อบริษัท
ชาว HR อย่างเรา ๆ คงไม่มีใครไม่รู้จัก KPI หรือ Key Performance Indicators เครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญสามารถประเมินผลสำเร็จของบริษัทหรือองค์กรว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ นอกจากนี้ KPI ยังถือว่าเป็นการสรุปภาพรวมการทำงานของบริษัทหรือองค์กรในปีนั้น ๆ องค์กรต้องปรับปรุงในแง่ไหนบ้าง มีจุดอ่อนหรือจุดแข็งอะไรที่ต้องพัฒนาต่อไป
KPI ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีจะช่วยทำให้สมาชิกในองค์กรหรือบริษัทตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับพนักงานสามารถแก้ไขความไร้ประสิทธิภาพที่มีอยู่ และจัดการงานหรือโครงการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีกำหนด KPI ให้มีประสิทธิภาพ
การกำหนด KPI นั้นควรจะตอบให้ได้ว่าเป้าหมายหลักคืออะไร? ตัวชี้วัดความสำเร็จของงานนั้นคืออะไร? โดยหลักการกำหนด KPI ที่หลาย ๆ องค์กร หรือหลาย ๆ บริษัท นิยมนำมาตั้งเป้าหมาย KPI ได้แก่ หลักการ SMART ซึ่งเป็นหลักการที่ช่วยให้เป้าหมายนั้นมีความชัดเจนและสามารถวัดผลได้ โดยหลักงาน SMART มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
S: Specific ตั้งเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจง
ขั้นตอนแรกในการสร้างเป้าหมายของ KPI ด้วยหลักการ SMART คือ การทำให้เป้าหมายนั้นมีความชัดเจน เฉพาะเจาะจง และสามารถวัดผลได้ ไม่ควรมีเป้าหมายที่คลุมเครือเนื่องจากอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ซึ่งการพิจารณาเป้าหมายของแต่ละองค์กรนั้นควรตั้งคำถามว่า
- ต้องการทำอะไรให้สำเร็จ?
- เหตุใดเป้าหมายนี้จึงสำคัญ
- ใครบ้างที่เกี่ยวข้อง?
M: Measurable ทำให้เป้าหมายสามารถวัดผลได้
ขั้นตอนนี้ช่วยให้องค์กรหรือบริษัทประเมินความสำเร็จหรือความล้มเหลวของ KPI นั้นได้ เป้าหมายควรมีวิธีที่สามารถวัดผลได้ ไม่ว่าจะเป็นกำหนดเวลา ตัวเลข เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ที่สามารถวัดผลได้
- จะรู้ได้อย่างไรว่าสำเร็จแล้ว?
- เท่าไหร่?
A: Achievable ทำให้เป้าหมายบรรลุผลสำเร็จ
ขั้นตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จ เป้าหมายหรือตัวชี้วัด (KPI) ควรเป็นไปได้และสามารถบรรลุได้จริง โดยพิจารณาจากทรัพยากรที่มีอยู่และปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรที่จะตั้งเป้าหมายที่ง่ายจนเกินไป เพราะอาจทำให้การวัดผลนั้นไร้ประโยชน์
- เราจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างไร?
- ทรัพยากรเพียงพอต่อการบรรลุผลสำเร็จหรือไม่?
R: Realistic ตั้งเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง สมเหตุสมผล
เป้าหมายที่เกี่ยวข้องจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จโดยตรง เป้าหมายหรือ KPI ควรเกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักขององค์กรและงานที่ทีมหรือบุคคลต้องทำ อีกทั้งการตั้งเป้าหมายควรคำนึงสภาพความเป็นจริง และความสมเหตุสมผลให้ได้มากที่สุด
- เป้าหมายนี้ตรงกับความต้องการขององค์กรหรือไม่
- สามารถใช้ได้กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันหรือไม่?
T: Timely กำหนดช่วงเวลาของเป้าหมาย
ทุกเป้าหมายล้วนต้องมีวันที่บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้มีกำหนดเวลาที่ต้องโฟกัสและมีสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ เป้าหมายหรือ KPI ควรมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถติดตามและประเมินผลได้ การกำหนดเวลาจะช่วยให้มีความรับผิดชอบและการดำเนินการมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
- เราต้องทำอะไรบ้างในเดือนนี้หรือปีนี้?
- เป้าหมายนี้ต้องสำเร็จเมื่อไหร่?
- KPI นี้มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเมื่อไหร่?
ข้อควรระวังในการตั้ง KPI
การตั้ง Key Performance Indicators (KPI) เป็นกระบวนที่สำคัญที่มีผลต่อการวัดและบรรลุเป้าหมายขององค์กร ต่อไปนี้คือข้อควรระวังที่ควรพิจารณาในขั้นตอนการตั้ง KPI
ความชัดเจนและเน้นที่เป้าหมาย:
ควรกำหนด KPI ที่มีเป้าหมายชัดเจนและเน้นที่ผลลัพธ์ที่ต้องการบรรลุ การกำหนด KPI ที่ไม่ชัดเจนอาจทำให้ทีมไม่เข้าใจและทำให้การวัดและการประเมินผลมีความผิดพลาด
ไม่ควรมีจำนวน KPI มากเกินไป:
การมีจำนวน KPI มากเกินไปอาจทำให้ทีมหลายคนหลงสับสนและไม่มีการให้ความสำคัญในการปฏิบัติตาม KPI ที่สำคัญที่สุด ควรเลือก KPI ที่เกี่ยวข้องและสำคัญที่สุดต่อธุรกิจ
การตรวจสอบความเป็นไปได้ในการวัด:
ตรวจสอบความเป็นไปได้ในการวัดข้อมูลสำหรับ KPI ที่ตั้งไว้ ควรเรียนรู้ว่าข้อมูลที่ต้องการวัดมีความสามารถในการเข้าถึงและตรวจสอบได้หรือไม่
ความเสี่ยงและตัวชี้วัดที่ไม่ถูกต้อง:
การตั้ง KPI ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการบรรลุ อาจส่งผลให้ทีมทำงานในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง
การประเมินและปรับปรุง:
ไม่ควรละเลยขั้นตอนการประเมิน KPI และการปรับปรุงตามผลการประเมิน การประเมินและปรับปรุงเป็นขั้นตอนสำคัญในการให้ KPI มีประสิทธิภาพ
ความโปร่งใส:
ควรทำให้ KPI และวิธีการวัดเป็นที่เข้าใจและโปร่งใสต่อทุกคนในองค์กร ทุกคนควรรู้ว่า KPI ที่ตั้งไว้มีความสำคัญและทำไมถึงต้องวัด
ตัวอย่าง KPI ของบริษัท
- เพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์ A ที่จำหน่ายในภูมิภาคเหนือ 20% ภายในระยะเวลา 3 เดือน
- เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ 100 ราย ภายในสิ้นปี
- ลดอัตราการลาออกของพนักงานลง 10% ภายในสิ้นปี
- คะแนนความพึงพอใจของลูกค้ายังคงอยู่สูงกว่า 80% หรือความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 90-100 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้
สรุปวิธีกำหนด KPI ให้มีประสิทธิภาพ
การตั้ง KPI ตามหลัก SMART จะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายหรือตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุได้จริง ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว นอกจากนี้ยังมี OKR ที่เป็นเครื่องมือการวัดผลสำเร็จขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ