วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เรื่อง Fixed Cost และVariable Cost มาฝากเจ้าของธุรกิจทุกท่าน เพราะการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ จะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- การเขียนแผนธุรกิจ ในปี 2024 ยังจำเป็นอยู่ไหม?
- ส่อง Business Trends 2024 ที่น่าจับตามอง
- HR มือใหม่ห้ามพลาด! ACTION PLAN วางแผนงานประจำปีของ HR
- การเขียนแผนธุรกิจ ในปี 2024 ยังจำเป็นอยู่ไหม?
รู้จักกับ Fixed Cost และ Variable Cost
- Fixed Cost หรือ ต้นทุนคงที่ เป็นต้นทุนที่ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ตามปริมาณการผลิตสินค้าและการให้บริการของเจ้าของธุรกิจ มักเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดซ้ำ และไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิต เช่น ค่าเช่า การจ่ายดอกเบี้ย ประกัน ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าเจ้าของกิจการจะผลิตสินค้าหรือสต๊อกสินค้ามากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในราคาเท่าเดิมนั่นเอง
- Variable Costs หรือ ต้นทุนผันแปร เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายสินค้า ซึ่งต้นทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงล้วนขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและกายขายสินค้าทั้งสิ้น
Fixed Cost หรือ ต้นทุนคงที่ มีอะไรบ้าง?
Fixed Cost หรือ ต้นทุนคงที่ ที่ต้องจ่ายตลอดการทำธุรกิจนั้น สามารถแยกได้อีก 2 ประเภท ดังนี้
ต้นทุนคงที่ระยะยาว (Committed Fixed Cost)
เป็นต้นทุนระยะยาวที่จะไม่มีการแปรผันหรือปรับเปลี่ยนในระยะเวลาอันสั้น เช่น ค่าเช่าเครื่องจักร ค่าเช่าสถานที่ ค่าเช่าโกดัง เป็นต้น เนื่องจากการเช่าพื้นที่ในระยะยาวจะมีราคาที่ถูกกว่า หากสัญญาการเช่าสิ้นสุดลงและได้มีการต่อสัญญาใหม่ ค่าเช่าโรงงานที่เดิมตรงนี้อาจจะมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้นได้ จึงส่งผลทำให้ต้นทุนคงที่ในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ต้นทุนคงที่ระยะสั้น (Discretionary Fixed Cost)
เป็นต้นทุนคงที่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เช่น ค่าโฆษณา ที่ไม่ว่าจะมีการผลิตงานออกมากี่ชิ้นก็จะมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม หากการโฆษณาสิ้นสุดลง ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนคงที่ในส่วนนี้ก็จะหายไป
ตัวอย่างต้นทุนคงที่ มีดังนี้
- ค่าเช่าเครื่องจักร
- ค่าเช่าสถานที่
- ค่าเช่าโกดัง
- ต้นทุนการทำแคมเปญโฆษณา ประชาสัมพันธ์
- การจ้างทีมงานจากภายนอกระยะสั้น
- เช่าสถานที่ระยะสั้น
Variable Cost หรือ ต้นทุนแปรผัน มีอะไรบ้าง
ต้นทุนผันแปร เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขายของสินค้า ซึ่งต้นทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงล้วนขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและกายขายสินค้าทั้งสิ้น วันนี้เรามีตัวอย่างของต้นทุนผันแปรมาฝากทุกท่าน ไปดูกันเลย
ค่าใช้จ่ายในการเช่าอุปกรณ์และเครื่องมือ
ค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือเช่าซื้อเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหรือให้บริการ เมื่อปริมาณการผลิตหรือบริการเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการเช่าอุปกรณ์และเครื่องมือก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ค่าวัตถุดิบ
ต้นทุนสำหรับวัสดุหรือส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ซึ่งเพิ่มขึ้นตามปริมาณสินค้าที่ผลิต
ค่าจ้างแรงงาน
ค่าจ้างแรงงานที่ต้องจ่ายให้กับพนักงานที่มีส่วนร่วมในการผลิตหรือให้บริการ ต้นทุนนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเพิ่มจำนวนพนักงานหรือจำนวนชั่วโมงทำงาน
ค่าพลังงาน
ค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้า, น้ำมัน, แก๊ส เมื่อปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ค่าบรรจุภัณฑ์
ต้นทุนสำหรับวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้าสำหรับการจัดส่งหรือการขาย
ค่าใช้จ่ายในการขนส่งและการจัดเก็บ
ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าหรือวัสดุเข้ามาในโรงงาน หรือส่งสินค้าไปยังลูกค้า เมื่อปริมาณการผลิตหรือบริการเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการขนส่งและจัดเก็บสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ค่าใช้จ่ายในการประกอบเอกสารและการบริหารจัดการ
ค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสาร, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางการเงิน, การจัดการทรัพยากรมนุษย์, และการบริหารจัดการทั่วไป เมื่อปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
สรุป Fixed Cost และ Variable Cost คืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง?
โดยสรุปแล้ว Fixed Cost หรือ ต้นทุนคงที่ เป็นต้นทุนที่ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปริมาณการผลิตสินค้า มักเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดซ้ำ และไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิต ส่วน Variable Cost หรือต้นทุนแปรผัน เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายสินค้า ซึ่งต้นทุนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงล้วนขึ้นอยู่กับปริมาณการผลิตและกายขายสินค้าทั้งสิ้น แน่นอนว่าเรื่องของต้นทุนการผลิต เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจ SME ต้องรู้ เพื่อเป็นการเสริมการขยายธุรกิจให้เติบโตในอนาคตต่อไป