PageView Facebook
date_range 14/09/2023 visibility 4268 views
bookmark HR Knowledge
เคล็ดลับ!  Recruitment Online สำหรับ HR นักสรรหา - blog image preview
Blog >เคล็ดลับ! Recruitment Online สำหรับ HR นักสรรหา

ในปัจจุบัน Recruitment Online เป็นวิธีการที่ง่าย และมีประสิทธิภาพมากถึงมากที่สุดสำหรับนักสรรหา แต่จะมีวิธีการอย่างไรบ้างที่สรรหาบุคคลให้ตรงความต้องการขององค์กร มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย


บทความเกี่ยวกับการรับสมัครงานที่คุณอาจสนใจ :



Recruitment Online คืออะไร?



Recruitment Online คือ กระบวนการหาคนงานหรือการสรรหาพนักงานใหม่โดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์หรือเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการ การสรรหาออนไลน์มักจะใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์กับผู้สมัครงานการประกาศตำแหน่งงาน การรับสมัคร การคัดเลือกผู้สมัคร และกระบวนการสัมภาษณ์


ซึ่งในปัจจุบัน Recruitment Online นี้ถือว่าเป็นช่องทางยอดนิยมและประสบความสำเร็จมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีประสิทธิภาพในการกระจายสื่อได้มากกว่า แถมยังมีต้นทุนที่ถูกกว่ามาก นอกจากนี้ ยังมีข้อดีต่างๆ อีกมากกมาย ดังนี้


ข้อดีของ Recruitment Online



  • ความสะดวกสบาย : สามารถเริ่มกระบวนการสรรหาและรับสมัครผู้สมัครจากที่ไหนก็ได้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  • คุณภาพของผู้สมัคร : สามารถใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ในการคัดเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงาน

  • ประหยัดเวลาและทรัพยากร : ลดเวลาในกระบวนการสรรหาและความต้องการในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่มีการสมัครงาน

  • การสื่อสารออนไลน์ : สามารถสื่อสารกับผู้สมัครผ่านทางอีเมล, การสนทนาออนไลน์, หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้สมัคร

  • การวิเคราะห์ข้อมูล : สามารถใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการสรรหาในอนาคต

จะเห็นได้ว่า Recruitment Online มีข้อดีมากมาย ที่จะช่วยให้การสรรหาบุคคลเข้าทำงานของ HR ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ดังเช่น


ช่องทางการสรรหาบุคลากรผ่านทางออนไลน์ (Recruitment Online Chanel)



แหล่งประกาศงานออนไลน์ (Online Job Boards)

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคน แม้กระทั่งการมองหางานทำ ซึ่งแหล่งประกาศงานออนไลน์ ได้กลายมาเป็นช่องทางหลักๆ ของทั้งผู้หางานและบริษัทที่หาคนทำงาน เพราะเป็นแหล่งข้อมูลการสรรหาที่ HR สามารถเข้าไปสรรหาผู้ที่สนใจทำงานได้ด้วยตนเอง ตัวอย่าง Website เช่น JobsDB Jobthai Jobbkk และ Work Venture เป็นต้น


เครือข่ายสังคมออนไลน์ด้านธุรกิจ (Business Social Networks)

อีกหนึ่งช่องทางออนไลน์ที่ผู้คนทั่วไปนิยมใช้กัน นั่นคือ Social Media เช่น LinkedIn Blockdit หรือ Medium ซึ่งแต่เดิมนั้น เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรธุรกิจ แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นช่องทางในการประกาศรับสมัครงานได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้คนจากเครือข่ายได้ทั่วโลกเลยทีเดียว


สื่อของตนเอง (Own Media)

ช่องทางออนไลน์ช่องทางสุดท้าย คือ ช่องทางการรับสมัครงานผ่านสื่อขององค์กรเอง เช่น Website ของบริษัท หรือ Facebook Fanpage เป็นต้น ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในองค์กรเล็กๆ และองค์กรใหญ่ เพราะเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ผู้สมัครที่รู้ความต้องการของตนเองว่าอยากร่วมงานกับองค์กรไหน ก็มักจะค้นหาประกาศรับสมัครงาน และติดต่อสมัครงานได้จากช่องทางนี้โดยตรง หรือหากเป็นองค์กรใหญ่ๆ ก็มักจะสร้างช่องทาง Job Network ของตนเองจาก Website แล้วประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่างๆ ขององค์กรอีกที


หลังจากทราบไปแล้วว่า ช่องทางสรรหาบุคลากรทางออนไลน์ Recruitment Online นั้น มีช่องทางไหนบ้าง ต่อมาเป็นเคล็ดลับที่ HR จำเป็นต้องรู้ในการสรรหาบุคคลให้ตรงความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ


เคล็ดลับ! การสรรหาบุคคลกรออนไลน์ Recruitment Online สำหรับ HR


1. รายละเอียดต้องชัดเจน (Job Specification)



เคล็ดลับแรกในการสรรหา คือการกำหนดคุณสมบัติ และรายละเอียดงานให้ชัดเจน เพื่อจัดทำสื่อในการประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยรายละเอียดต่างๆ ที่สำคัญมีดังนี้


  • ระบุชื่องาน ตำแหน่ง ลักษณะงาน

การระบุลักษณะ หรือคุณสมบัติของบุคคลที่เราต้องการให้ชัดเจนนั้น จะทำให้ผู้ทำสื่อเข้าใจว่าต้องการบุคลากรแบบไหน และทำสื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถดึงดูดบุคคลที่องค์กรต้องการได้ตรงกลุ่มมากขึ้นด้วย


  • ระบุประสบการณ์ที่ผ่านมา

เรื่องประสบการณ์การทำงานนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระบุ ว่าต้องการบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงานหรือเพียงมีระดับความรู้ที่ต้องการก็ได้แล้ว เพราะข้อมูลนี้จะเป็นการคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี


  • ระบุผลตอบแทนและสวัสดิการให้ครบถ้วน

การระบุผลตอบแทนและสวัสดิการก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีศักภาพให้สนใจมาสมัครงานกับองค์กรได้


2. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กร (Build Your Brands)



การสร้างภาพลักษณ์นั้น เป็นเคล็ดลับที่ใช้กันมาเนิ่นนาน และมีความสำคัญมากๆ ไม่แพ้ในอดีต เพราะผู้สมัครงานทุกๆ คนนั้น ก่อนที่จะสมัครร่วมงานกับองค์กรใดแล้ว ย่อมหาข้อมูลองค์กรในหลายๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านชื่อเสียง ลักษณะการทำงาน วิสัยทัศน์ผู้บริหาร นโยบายต่างๆ ทั้งปัจจุบันและอนาคต และในด้านอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมงานด้วย ดังนั้นองค์กรควรทำสื่อต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้เข้าใจง่าย เพื่อสะดวกต่อการสื่อสารและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรด้วย


3. เลือกช่องทางการสรรหา (Select Online Media Channels)



แน่นอนว่า HR ควรเลือกช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Online Job Boards และ Social Networks เพราะเป็นช่องทางที่สะดวกและมีต้นทุนถูกกว่าช่องทางอื่น และสามารถสื่อสารเฉพาะเจาะจงตามกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า


4. เข้าถึงช่องทางมือถือได้ (Mobile Compatibility)



ปฏิเสธไม่ได้ว่ามือถือมีบทบาทในชีวิตประจำวันกับเราทุกๆ จนเรียกได้ว่า “สังคมก้มหน้า” ดังนั้น ในการสรรหาพนักงานในปัจจุบัน จึงควรให้ความสำคัญกับช่องทางที่รองรับการใช้งานบนมือถือด้วย หรือที่เรียกว่า Mobile-Friendly เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น และสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่ใช้ประชาสัมพันธ์ จะต้องมีขนาดที่ดูผ่านมือถือได้ชัดเจน และควรมี Mobile Application ไม่ว่าทั้ง iOS และ Android เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว


สรุป เคล็ดลับ! Recruitment Online สำหรับ HR นักสรรหา


ถึงแม้ว่า Recruitment Online จะเป็นกระบวนการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และสามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย เข้าถึงตามกลุ่มเป้าหมายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกๆ จะสนใจหรือให้ความสำคัญ ดังนั้น การใช้ช่องทาง Recruitment Online หรือ Social Media เข้ามาเกี่ยวข้องกับงานสรรหา จึงควรอยู่ในความดูแล และวิจารณญานของ HR หริอหัวหน้างานที่รับผิดชอบในแต่ละตำแหน่งที่ประกาศออกไปด้วย เพราะในบางตำแหน่งงานแค่ประกาศบนหน้า Website หรือประกาศรับสมัครงานออนไลน์ ผ่านโปรแกรมบริหารงานบุคคล ก็อาจจะพอ แต่บางตำแหน่งอาจต้องกระตุ้นการมองเห็น และอัปเดตเทรนด์การทำงานต่างๆ ให้ดูทันสมัยอยู่เสมอด้วย

hms-helpful-shadow svg fileโปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วันครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้