วันตรุษจีนกำลังมาถึง วันสำคัญสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน โดยหลายท่านคงกำลังเตรียมของไหว้วันตรุษจีนกันอยู่ บทความนี้ได้รวมของไหว้วันตรุษจีน พร้อมวิธีจัดโต๊ะไหว้มาฝาก

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:

ความสำคัญของวันตรุษจีน

วันตรุษจีน นับว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของปฏิทินจีน เทศกาลปีใหม่จีนในแต่ละปีจะไม่ตรงกัน โดยธรรมเนียมปฏิบัติเทศกาลตรุษจีนจะแบ่งออกเป็น 3 วัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ซึ่งตรุษจีน 2567 นี้ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว มีดังนี้

วันจ่าย ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
วันไหว้ ตรงกับวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
วันเที่ยว ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567

Tips! อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> เช็กด่วน! ตรุษจีน 2567 ปีนี้ตรงกับวันที่เท่าไร และห้ามทำอะไร

ของไหว้วันตรุษจีน 2567 มีอะไรบ้างที่ขาดไม่ได้

ในวันตรุษจีน คนไทยเชื้อสายจีนมักจะทำการไหว้เจ้าและบรรพบุรุษในช่วงวันตรุษจีน เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ครอบครัว โดยทั่วไปแล้ว ของไหว้ตรุษจีนมักจะประกอบไปด้วยอาหารมงคลทั้งของคาว ของหวาน และผลไม้ที่นิยมนำมาไหว้เจ้าและบรรพบุรุษในช่วงวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่ามีความหมายมงคล สื่อถึงความสุข และความร่ำรวย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ของไหว้วันตรุษจีน หมวดอาหารมงคล (ของคาว)

อาหารมงคลที่ใช้ในการไหว้ตรุษจีน มักจะเน้นเนื้อสัตว์ เพื่อสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง และอาหารที่ปรุงจากเส้นหมี่ บะหมี่ และหมี่ซั่ว สื่อถึงอายุยืนยาว โดยอาหารมงคลที่นิยมนำมาไหว้มีดังนี้

หมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ กินดีอยู่ดี
เป็ด หมายถึง ความสุข ความมั่งคั่ง
ไก่ หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
หมึกและปลา หมายถึง ความเหลือกินเหลือใช้
กุ้ง หมายถึง ยศตำแหน่ง บารมี
บะหมี่/หมี่ซั่ว หมายถึง อายุยืนยาว
สาหร่าย/เกี๊ยวต้ม หมายถึง เงินทองมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคดี

ของไหว้ตรุษจีน หมวดผลไม้

ผลไม้มงคลเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ โดยผลไม้ที่นิยมนำมาไหว้ในวันตรุษจีนมีดังนี้

ส้ม หมายถึง โชคดี
แอปเปิลสีแดง หมายถึง ความสันติสุข ความสงบสุขในชีวิต
องุ่นแดง หมายถึง เจริญงอกงาม
กล้วยหอม หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา และมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
ทับทิมแดง หมายถึง ความรักความสามัคคีภายในครอบครัว
สาลี่ทอง หมายถึง โชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง (ไม่นิยมนำมาไหว้บรรพบุรุษ และวิญญาณไร้ญาติ)
แก้วมังกร หมายถึง ผลไม้แห่งอำนาจ ความอุดมสมบูรณ์

*หมายเหตุ ผลไม้ที่ไม่ควรนำมาไหว้ในวันตรุษจีนได้แก่ ผลไม้ที่มีสีดำ หรือผลดิบ เนื่องจากไม่เป็นมงคล สื่อถึงการไว้ทุกข์ และผลไม้สีเขียว เช่น กล้วยดิบ องุ่นเขียว ฝรั่ง ลูกแพร์เขียว เป็นต้น

ของไหว้ตรุษจีน หมวดของหวาน

ต่อมาคือในส่วนของหมวดของหวานที่ใช้ในการไหว้ตรุษจีน ซึ่งของหวานนั้นสื่อถึงความหวานชื่นและความสุข โดยของหวานที่นิยมนำมาไหว้ในวันตรุษจีนมีดังนี้

ขนมเข่ง หมายถึง ความก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรือง
ขนมจันอับ หมายถึง ความสุขกายสบายใจ มีความสุขตลอดไป
ขนมถ้วยฟู หมายถึง ความมีชื่อเสียง ได้รับลาภยศ และชีวิตรุ่งเรื่องเฟื่องฟู
ขนมสาลี่ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์ รุ่งเรือง
ขนมไข่ หมายถึง ความเจริญเติบโต
ซาลาเปา หมายถึง ห่อโชค ห่อเงิน ห่อทอง

นอกจากนี้ ยังมีของไหว้อื่น ๆ ที่อาจนิยมนำมาไหว้ตามความเชื่อของแต่ละครอบครัว เช่น เทียนแดง หมายถึง ความสว่างไสว น้ำชา หมายถึง ความบริสุทธิ์ กระดาษเงิน-ทอง หมายถึง เงินทอง กิมฮวย หมายถึง ความมั่งคั่ง สาคูแดง หมายถึง ความราบรื่น เป็นต้น

วิธีจัดโต๊ะวางของในการไหว้

ในวันตรุษจีนการจัดโต๊ะวางของในการไหว้ จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแบบแผนที่ชัดเจนมากนัก โดยการจัดโต๊ะมักจะแตกต่างกันออกไปความเชื่อและธรรมเนียมของครอบครัวนั้น ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วการจัดโต๊ะวางของในการไหว้ตรุษจีน มีหลักการดังนี้

จุดที่ 1 จัดวางโต๊ะไหว้บริเวณด้านหน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา

จุดที่ 2 กระถางควรจัดให้อยู่หน้าเทวรูปหรือแท่นบูชา

จุดที่ 3 วางเชิงเทียน แจกันดอกไม้ ขนาบซ้าย-ขวาของกระถางรูป

จุดที่ 4 ถัดมาคือ ข้าวซึ่งส่วนใหญ่จะไหว้จำนวน 3 หรือ 5 ถ้วย โดยต้องตักให้พูนถ้วย

จุดที่ 5 วางน้ำชา หรือถ้วยเหล้า

จุดที่ 6 วางถ้วยน้ำดื่ม

จุดที่ 7 วางของคาว เครื่องเซ่นไหว้ 3 อย่าง (ซาแซ) เครื่องเซ่นไหว้ 5 อย่าง (โหวงแซ)

จุดที่ 8 ของหวานหรือผลไม้

จุดที่ 9 วางกระดาษเงิน กระดาษทองไว้ที่บนโต๊ะไหว้

สรุปรวมของไหว้วันตรุษจีน 2567 มีอะไรบ้างที่ขาดไม่ได้ พร้อมวิธีจัดโต๊ะวาง

วันตรุษจีนถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนในการรำลึกถึงบรรพบุรุษ และไหว้เจ้าเพื่อเสริมมงคลให้แก่ชีวิต ซึ่งการไหว้ตรุษจีนควรจัดเตรียมของไหว้ให้ครบถ้วน และควรจัดโต๊ะวางของไหว้ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลที่ดีให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้การเตรียมของไหว้หรือการจัดโต๊ะไหว้นั้นอาจแตกต่างกันไปตามความเชื่อและธรรมเนียมของแต่ละบ้านที่สืบทอดกันต่อมา