แนะนำเทคนิคและวิธีสำหรับคนทำงานเปลี่ยนกะยังไงให้ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ พร้อมแนะนำวิธีการลาด้วยการสลับกะกับผู้อื่น ครบจบในบทความเดียว

เปลี่ยนกะทำงานอย่างไร
	นอกจากการทำงานแบบปกติที่เข้าเช้าออกเย็นแล้ว ยังมีการทำงานอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการทำงานแบบเปลี่ยนกะ หรือหลาย ๆ คนเรียกกันว่าการ “เข้ากะ” ซึ่งมักพบเห็นกับงานที่ต้องให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น ร้านสะดวกซื้อ พนักงานรักษาความปลอดภัย โรงพยาบาล ทหาร ตำรวจ เป็นต้น ซึ่งการทำงานในรูปแบบนี้ถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างหนักเลยทีเดียว เพราะไม่สามารถเลือกเวลาพักผ่อนของตนเองได้ บางครั้งต้องอดหลับอดนอน ซึ่งในวันนี้เราจะมาขยายความของคำว่าเข้ากะให้คุณได้รู้มากยิ่งขึ้น

ทำงานเป็นกะคืออะไร?
	สำหรับการทำงานด้วยการเป็นกะนั้น พนักงานจะต้องสลับสับเปลี่ยนกันอยู่ตลอดในหน้าที่นั้น ๆ ทำให้งานดำเนินไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยพนักงานจะมีระยะเวลากำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน ว่าตนเองรับผิดชอบในช่วงเวลาไหน วันอะไร ต้องเริ่มกี่โมง ได้พักกี่โมง และได้เลิกงานกี่โมง ซึ่งตามกฎหมายแรงงานของประเทศไทยแล้วการทำงานต่อ 1 กะ จำกัดได้เพียงแค่ไม่เกิน 8 ชั่วโมงเพียงเท่านั้น ไม่นับรวมเวลาพัก

การสลับกะทำงานกับคนอื่น
	ในกรณีที่คุณติดธุระทำให้ไม่สามารถไปรับหน้าที่เปลี่ยนกะ ในช่วงเวลาที่คุณได้รับมอบหมาย การที่คุณจะลา หรือเปลี่ยนวันหยุด อาจส่งผลกระทบต่อตารางงานของพนักงานคนอื่น ๆ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วการแก้ปัญหามักจะใช้วิธี “สลับกะทำงานกับผู้อื่น” ซึ่งเป็นการเจรจากับผู้ที่สามารถทำงานทดแทนคุณได้ในวันนั้น ๆ โดยคุณอาจจะทำงานกะของเขาเป็นการชดใช้ หรือตอบแทนในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งในการสลับกะนั้นควรให้เจ้าหน้าที่ HR หรือหัวหน้างานรับรู้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง


ข้อปฏิบัติสำหรับคนทำงานเปลี่ยนกะ
	การทำงานแบบเป็นกะเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก เพราะทำให้คุณไม่สามารถนอนในเวลาที่ควรนอน กินในเวลาที่ควรกิน ในบางครั้งอาจจะต้องสลับช่วงเวลาไปนอนช่วงกลางวัน ทำงานตอนกลางคืน ซึ่งอาจจะส่งผลเสียกับสุขภาพในภายหลัง ดังนั้นผู้ที่ทำงานเป็นกะควรปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้ไม่เกิดปัญหาสุขภาพจากการทำงาน

	• พักผ่อนให้เพียงพอ
	นอกจากการพักผ่อนแล้ว การออกกำลังกายก็สำคัญ เพราะการทำงานเป็นกะทำให้นาฬิกาชีวิตในแปรปรวน เสี่ยงที่จะป่วยมากกว่าคนที่ใช้ชีวิตแบบปกติ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันเพิ่มมากขึ้น และอีกหนึ่งปัญหาของการทำงานเป็นกะคือ “ปัญหาความอ้วน” เพราะกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ดังนั้นการออกกำลังกายจะช่วยควบคุมรูปร่างได้เป็นอย่างดี

	• รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
	แต่การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็เป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งผู้ที่ต้องทำงานเป็นกะแล้วยิ่งสำคัญเข้าไปใหญ่ เพราะร่างกายของคุณจะถูกใช้งานเป็นอย่างหนัก การทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมสู้กับงานได้มากยิ่งขึ้น ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ทำงานเป็นกะก็คือ ไม่ควรทานอาหารแล้วนอนพักในทันที เพราะอาจทำให้เป็นกรดไหลย้อนได้

	• แบ่งเวลาให้เหมาะสม
	เนื่องจากการทำงานเป็นกะ ตารางงานในเดือนนั้นๆ ของคุณจะถูกกำหนดเอาไว้จนหมดแล้ว ซึ่งอาจทำให้คุณมีปัญหากับคนรอบตัว ยกตัวอย่างเช่นครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก การแบ่งเวลาให้เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานของคุณไม่ส่งผลกระทบต่อคนรอบ ๆ ข้าง สามารถอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างเต็มที่ พักผ่อนได้เพียงพอ มีเวลาออกกำลังกาย ได้ทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ ไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติ

สรุปการเปลี่ยนกะให้เหมาะสม
	การทำงานแบบเป็นกะ หรือต้องเปลี่ยนกะทำงานอยู่บ่อย ๆ นอกจากพนักงานจะต้องดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือระบบการจัดตารางงาน บริษัทควรจัดวางตารางงานให้เหมาะสม ไม่ทำให้พนักงานต้องรับผิดชอบมากเกินไปจนพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของพนักงานแล้ว ยังผิดกฎหมายแรงงานอีกด้วย ดังนั้นแล้วการมองหาระบบจัดการทรัพยากรบุคคลดี ๆ จึงเป็นทางเลือกที่ทุกบริษัทควรทำ