หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Gen X, Gen Y หรือ Gen Z แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าแต่ละ Generation มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร พวกเขาอยู่ในวัยไหน ไปดูกันเลย

อ่านบทความที่คุณอาจสนใจเพิ่มเติม:

Generation คืออะไร มี Gen อะไรบ้าง

ในโลกของเรา การแบ่งช่วงวัยหรือที่เรียกกันว่า “Generation” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การระบุอายุ หรือการจัดกลุ่มตามช่วงปีเกิด แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม พฤติกรรม ความคิด และความเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัยอีกด้วย Generation หรือ "เจเนอเรชัน" ถูกกำหนดขึ้นเพื่ออธิบายกลุ่มคนที่เกิดในช่วงเวลาหนึ่ง และประสบเหตุการณ์หรือมีประสบการณ์ร่วมกันในสังคม มาดูกันว่าแต่ละ Generation มีอะไรบ้าง และแต่ละ Gen อยู่ในช่วงวัยไหน

1. Greatest Generation (Gen Greatest): รุ่นผู้กล้าหาญแห่งยุคสงคราม

ช่วงปีเกิด: เกิดก่อนปี พ.ศ. 2468 (ค.ศ. 1925)

Gen Greatest คือรุ่นที่ผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มีความอดทนสูง มีวินัย และเสียสละเพื่อส่วนรวม ปัจจุบันไม่มีใครจากรุ่นนี้หลงเหลืออยู่แล้ว

2. Silent Generation: รุ่นที่เติบโตในความเงียบสงบ

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2468 – 2488 (ค.ศ. 1925 - 1945)

Silent Generation เกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกต้องการความสงบและการฟื้นตัวจากสงคราม ผู้คนในเจนนี้จึงมีความอดทนอดกลั้น เน้นการรักษาประเพณีดังเดิม ชอบความมั่นคง และความเรียบง่าย

3. Baby Boomers (Gen B): รุ่นผู้เปลี่ยนโลกหลังสงคราม

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2489 – 2507 (ค.ศ. 1946 - 1964)

เป็นยุคที่เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั่วโลก ส่งผลให้เกิด "Baby Boom" หรือการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร คน Gen นี้เติบโตในช่วงที่โลกเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรม และการขยายตัวของเมือง เป็นต้น

ลักษณะเด่นของคน Gen B:

ให้ความสำคัญกับความสำเร็จและความก้าวหน้า
ชอบการทำงานหนักเพื่อเป้าหมายในระยะยาว
เป็นกลุ่มที่มักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

4. Generation X (Gen X): รุ่นของความยืดหยุ่นและการปรับตัว

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2508 – 2522 (ค.ศ. 1965 - 1980)

Gen X หรือที่บางครั้งเรียกว่า " Generation ของคนทำงานหนัก" เติบโตขึ้นมาในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ได้เข้ามามีบทบาทมากเหมือนในปัจจุบัน คนรุ่นนี้จึงถูกหล่อหลอมด้วยความอดทน ยืดหยุ่น และการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

Gen X เปรียบเสมือนเป็น "สะพานเชื่อม" ระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเป็น Gen ที่เกิดในยุคก่อนอินเทอร์เน็ต แต่สามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดีเมื่อมันกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เช่น การเปลี่ยนผ่านจากการใช้โทรศัพท์บ้านสู่สมาร์ทโฟน

ลักษณะเด่นของคน Gen X:

ชอบความมั่นคงในชีวิตและการงาน
ให้ความสำคัญกับครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความมุ่งมั่นในอาชีพการงาน
เป็นกลุ่มที่มีความภักดีต่อแบรนด์และองค์กร

5. Millennials (Gen Y): รุ่นที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนยุคใหม่

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2523 – 2539 (ค.ศ. 1981 - 1996)

Gen Y หรือ Millennials คือรุ่นที่เติบโตมากับการพัฒนาของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตในยุคแรก ๆ เช่น การใช้อีเมล การเล่นโซเชียลมีเดีย และสมาร์ทโฟน เป็นต้น คนใน Gen นี้จึงคุ้นเคยกับโลกดิจิทัลตั้งแต่วัยเด็ก นอกจอกนี้ Gen Y ยังเป็นรุ่นที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพทั้งร่างกาย-จิตใจ การใช้ชีวิตที่สมดุลทั้งชีวิตการทำงาน-ชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) และการแสวงหาความหมายชีวิต

คน Gen Y จึงถือเป็น “Generation แห่งการเปลี่ยนแปลง” เนื่องจาก Gen Y ชอบการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ยึดติดกับรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ เช่น การทำงานแบบ 9-to-5 (เริ่มทำงาน 9 โมงเช้า เลิกงาน 5 โมงเย็น) แต่จะเริ่มหันมาสนใจงานที่มีความยืดหยุ่น หรือการทำงาน Freelance

ลักษณะเด่นของคน Gen Y:

ชื่นชอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อเทรนด์ทางสังคม เช่น การใช้ Social Media
มีอิสระทางความคิด คิดนอกกรอบ มีความคิดสร้างสรรค์
ให้ความสำคัญกับคุณค่าและจุดยืนทางสังคม

6. Generation Z (Gen Z): ดิจิทัลเนทีฟแห่งอนาคต

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2540 – 2552 (ค.ศ. 1997 - 2009)

Gen Z คือ กลุ่มคนที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram และ YouTube เป็นต้น ดังนั้น คน Gen Z จึงถูกเรียกว่า “Digital Natives”

Gen Z เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำ และมักจะมองหาช่องทางแสดงออกในแบบของตนเอง เช่น การสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ หรือการเปิดธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นต้น นอกจากนี้ กลุ่มคน Gen Z ยังใส่ใจในเรื่องของประเด็นทางสังคม เช่น สิทธิมนุษยชน ความหลากหลาย และปัญหาของสิ่งแวดล้อม

ลักษณะเด่นของคน Gen Z:

คล่องแคล่วในโลกดิจิทัล
ยอมรับความหลากหลาย เปิดกว้างเรื่องวัฒนธรรม เพศ เชื้อชาติ และความคิดเห็นที่แตกต่าง
มีแนวคิดแบบกล้าหาญ กล้าคิดกล้าทำ
ใส่ใจปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

7. Generation Alpha (Gen Alpha): เจเนอเรชันแห่งการเกิดใหม่

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2553 – 2567 (ค.ศ. 2010 - 2025)

Gen Alpha เป็นเด็กที่เติบโตในโลกที่เทคโนโลยีอย่าง AI, Internet of Things (IoT) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เด็ก Gen Alpha เรียกได้ว่าเกิดในยุคที่ความล้ำสมัยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเด็ก Gen Alpha จึงคุ้นเคยกับอุปกรณ์สมาร์ทตั้งแต่ยังเล็ก นอกจากนี้ เด็ก Gen Alpha ยังมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในอนาคตได้

ลักษณะเด่นของคน Gen Alpha:

มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
คุ้นเคยกับอุปกรณ์สมาร์ทต่าง ๆ ตั้งแต่วัยเยาว์
มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี

8. Generation Beta (Gen Beta): ยุคอนาคตข้างหน้า

ช่วงปีเกิด: ปี พ.ศ. 2568 – 2582 (ค.ศ. 2026 - 2039)

Gen Beta คือ คือคำที่ถูกนำมาใช้เรียกกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเกิดหลังปี 2025 แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เกิดในขณะนี้ แต่ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าคนรุ่นนี้จะเติบโตในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ โดยเฉพาะการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีล้ำหน้าต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่จะกลายเป็น "ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน" อย่างแท้จริง

สรุป Generation มีอะไรบ้าง? Gen X Y Z อยู่ในวัยไหน

Generation ในรุ่นต่าง ๆ ล้วนสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้น ๆ โดยแต่ละรุ่นล้วนมีลักษณะเด่นที่ต่างกันออกไป

Generation แต่ละรุ่นล้วนมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Baby Boomer ที่มุ่งเน้นความมั่นคง Gen X ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวเก่ง Gen Y ที่รักอิสระและใช้เทคโนโลยีอย่างเชี่ยวชาญ หรือ Gen Z ที่เติบโตในยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ การทำความเข้าใจคนแต่ละ Generation จะช่วยให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและสร้างความสำเร็จร่วมกันในสังคม