“Pet-Friendly Workplace” เทรนด์สำหรับพนักงานที่มีสัตว์เลี้ยงที่สามารถพาเจ้าสี่ขามาทำงานด้วยได้ ก่อนนำนโยบายนี้มาปรับใช้บริษัทต้องพิจารณาข้อสำคัญอะไรบ้าง?
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- แจกแคปชั่นพลังชีวิต ข้อคิดดี ๆ ที่ช่วยให้รักตัวเองมากขึ้น!
- แชร์ 5 วิธีดูแลสุขภาพจิต (Mental Health) ที่ทุกคนทำตามได้
- โรค TATT หรือ โรคเหนื่อยสะสม เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือ
- Checklist!! คนประเภทใดที่เข้าข่ายเป็นโรค Imposter Syndrome
- โรคยอดฮิตของคนทำงาน และวิธีป้องกันที่ HR ช่วยได้
รู้จักกับนโยบาย Pet-Friendly Workplace
เรียกได้ว่า สัตว์เลี้ยง คือแหล่งกำเนิดของความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนบางกลุ่ม ปัจจุบันนี้จึงมีเทรนด์ Pet-Friendly Workplace เกิดขึ้นภายในออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นการมีสัตว์เลี้ยงภายในออฟฟิศหรือจะเป็นการนำสัตว์เลี้ยงมาสถานที่ทำงานด้วยก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทรนด์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ เพราะนโยบายนี้ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน จะเห็นได้ว่า การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ ระหว่างที่กำลังทำงานส่งผลดีต่อพนักงาน เพราะเมื่ออยู่ใกล้กับสัตว์เลี้ยงร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้จะช่วยลดความเครียด เพิ่มความการผ่อนคลาย และปรับอารมณ์ด้านลบให้กลับมาดีดังเดิม อีกทั้งการมีสัตว์เลี้ยงภายในออฟฟิศยังส่งผลให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับการมาทำงานมากขึ้น
ข้อพิจารณาก่อนใช้นโยบาย Pet-Friendly Workplace
อย่างไรก็ตาม การนำนโยบาย Pet-Friendly Workplace มาปรับใช้กับบริษัทของตนเอง ต้องพิจารณาในหลากหลายด้าน เพื่อให้การอยู่ร่วมกันภายในออฟฟิศเป็นไปอย่างราบรื่น
สอบถามความคิดเห็นพนักงาน
ก่อนจะนำนโยบาย Pet-Friendly Workplace มาปรับใช้ บริษัทควรสอบถามความคิดเห็นของพนักงานเสียก่อน เพราะสัตว์เลี้ยงถือเป็นความชื่นชอบเฉพาะบุคคล หากเสนอนโยบายแล้วพบว่ามีพนักงานบางส่วนไม่เห็นด้วย แนวทางที่ดีที่สุดคือ ให้บริษัทจัดกิจกรรมพิเศษให้พนักงานสามารถนำสัตว์เลี้ยงของตนเองมาพบปะกับสัตว์เลี้ยงของพนักงานคนอื่น ๆ และเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นได้
พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก
บริษัทควรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสม หาพื้นที่นอกอาคารที่ปลอดภัย เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้มีพื้นที่วิ่งเล่น หากบริษัทมีพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการเครียด อาจทำร้ายพนักงานหรือบุคคลอื่น ๆ ได้ง่าย นอกจากจัดเตรียมพื้นที่แล้ว การจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาด ภาชนะใส่อาหารและน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงก็นับเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทไม่ควรมองข้าม
ผลกระทบต่องาน
การมีสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ ๆ ระหว่างการทำงาน แน่นอนว่าส่งผลดีต่อพนักงานในหลากหลายด้าน แต่ข้อควรระวังคือ การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอาจจะส่งผลกระทบต่องานที่ทำได้ เช่น งานไม่เสร็จตามกำหนด เนื่องจากมัวแต่เล่นกับสัตว์เลี้ยง, เสียงรบกวนจากสัตว์เลี้ยงอาจทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้อาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจส่งผลกระทบกับพนักงานได้
กฎระเบียบและข้อบังคับ
บริษัทควรออกกฎระเบียบและข้อบังคับที่ชัดเจนเพื่อให้การอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์เลี้ยงเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมและเรื่องสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นแนวทางป้องกันกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้อีกด้วย
นโยบาย Pet-Friendly Workplace ส่งผลดีต่อทั้งพนักงานและองค์กรอย่างไร?
นโยบาย Pet-Friendly Workplace ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่นโยบายนี้จะส่งผลดีต่อทั้งพนักงานและองค์กรอย่างไร ไปติดตามกันเลย
ผลดีต่อพนักงาน
- ลดความเครียดและเพิ่มความสุข
- สร้างความผูกพันกับองค์กร
- สุขภาพจิตดี
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ผลดีต่อองค์กร
- ดึงดูดและรักษาพนักงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีม
- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
สรุป พาเจ้าสี่ขามาทำงานด้วยได้ กับนโยบาย Pet-Friendly Workplace
ปัจจุบันการนำสัตว์เลี้ยงมาทำงานที่ออฟฟิศด้วยได้ หรือที่เรียกกันว่า Pet-Friendly Workplace นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยฮีลใจให้กับพนักงานภายในออฟฟิศได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่บริษัทต้องให้ความสำคัญคือ ความเห็นชอบของพนักงาน, พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง, ผลกระทบต่องาน และกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นก่อนนำนโยบาย Pet-Friendly Workplace มาปรับใช้ ควรต้องมีการทำข้อตกลงภายในบริษัทอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อให้การทำงานและการอยู่ร่วมกันของพนักงานและสัตว์เลี้ยงราบรื่น