PageView Facebook
date_range 23/08/2023 visibility 2699 views
bookmark HR Knowledge
เตรียมตัวสัมภาษณ์งานออนไลน์อย่างไร ให้เป็นคนที่ถูกเลือก - blog image preview
Blog >เตรียมตัวสัมภาษณ์งานออนไลน์อย่างไร ให้เป็นคนที่ถูกเลือก

เชื่อว่าในตอนนี้ หลายคนกำลังเตรียมตัวสัมภาษณ์งานออนไลน์กันอยู่ แล้วจะเตรียมตัวอย่างไรให้เป็นคนที่ถูกเลือก เป็นคนที่ได้ไปต่อ เคล็ดลับต่างๆ อยู่ในบทความนี้เลย



อ่านเพิ่มเติมบทความที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน




การสัมภาษณ์งานออนไลน์


ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรากำลังอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากผ่านยุคโควิดเป็นต้นมา รูปแบบการดำเนินชีวิตจึงเปลี่ยนไป เป็นแบบออนไลน์แทบทั้งสิ้น แม้กระทั่งรูปแบบของการสมัครงาน และสัมภาษณ์งาน ที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกล เพียงเพื่อมารอสัมภาษณ์งานอีกต่อไป ทำให้การสัมภาษณ์งานออนไลน์ จึงกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีความเหมาะสมในหลายๆ สถานการณ์

ไม่ว่าจะเป็นทางผู้สมัครงาน หรือ ผู้รับสมัครงานเองก็ตาม และ หลายๆ องค์กรก็มักจะเลือกวิธีการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ เพราะมีข้อดีและเหตุผลหลายอย่างที่ช่วยให้กระบวนการสรรหาบุคลากรของ HR นั้น ดำเนินไปได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากที่สุด 


 แต่เมื่อหันกลับมามองในมุมของผู้สมัครงานที่กำลังถูกเรียกมาสัมภาษณ์งานออนไลน์ ก็จะต้องมีการปรับตัวอย่างมาก โดยการปรับตัวที่ว่านั้น ทางผู้สมัครต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ให้ดึงดูดใจ HR หรือกรรมการ สร้างความประทับใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงาน ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ

มาฝากกัน


เคล็ดลับการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานออนไลน์

 

เรื่องการสัมภาษณ์งานนั้น เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายเรื่องหนึ่งสำหรับผู้สมัครหน้าใหม่ๆ เลยทีเดียว แล้วยิ่งเป็นการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ ยิ่งเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งจะต้องมีเรื่องเตรียมตัวที่เพิ่มขึ้นกว่าการสัมภาษณ์แบบเดิม แต่ผู้สมัครก็ยังสามารถสร้างความประทับใจครั้งแรก ผ่านการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ได้ หากผ่านการเตรียมตัวเหมาะสมและเพียงพอ โดยการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งานออนไลน์นั้น มีดังนี้

 

1. เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์



อย่างแรกเลยที่ผู้สมัครต้องทำคือ การหาข้อมูลให้ชัดเจนว่าทางบริษัทจะสัมภาษณ์งานออนไลน์ผ่านโปรแกรมใด เพราะทุกวันนี้มีโปรแกรม Video Conference ให้เลือกอย่างหลากหลาย และแต่ละโปรแกรมก็มีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน  เช่น Microsoft Team, LINE, Google Meets, Zoom หรือ Skype เป็นต้น หลังจากทราบแล้วก็โหลดโปรแกรมนั้นมาทดสอบใช้งานเพื่อสร้างความคุ้นเคยเช็คมุมกล้อง ทดสอบไมค์ โดยสามารถทดลองกับเพื่อนดูก่อนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในขณะที่สัมภาษณ์งานจริง

 

2.  เตรียมสถานที่ให้เหมาะสม



เพราะสถานที่นั้น มีผลต่อภาพลักษณ์ของเราได้เช่นกัน การเตรียมสถานที่ให้เหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ บ่งบอกว่าเราเป็นผู้สมัครที่สามารถทำงานเป็นมืออาชีพได้หรือไม่ หรืออาจมองไปถึงลักษณะนิสัยของเราได้เช่นกัน ดังนั้นผู้สมัครควรเลือกเป็นห้องส่วนตัว มีแสงสว่างที่เพียงพอ ไม่มีเสียงภายนอกมารบกวน เพราะอาจทำให้ผู้สมัครเสียสมาธิ หรือผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ยินสิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อสาร

 

3.  เอกสารต้องเตรียมให้พร้อม



ขั้นตอนการสัมภาษณ์งานออนไลน์ของแต่ละองค์กรนั้น แตกต่างกัน บางที่ต้องยืนยันตัวตน บางที่ต้องใช้เอกสาร หรือบางที่ก็ไม่ใช้อะไรเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ผู้สมัครควรเตรียมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสมัครไว้ให้พร้อม ทั้งแบบเอกสารตัวจริง และแบบสแกนเป็นไฟล์ไว้ในอุปกรณ์ด้วย พร้อมที่จะขึ้นสไลด์ผ่านทางอุปกรณ์ได้ทุกเมื่อ เพราะหากผู้สัมภาษณ์ขอดูเอกสาร แล้วผู้สมัครไม่มีให้ อาจกลายเป็นความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เสียคะแนนบางส่วนไปเลยก็เป็นได้

 

4.  ศึกษาข้อมูลบริษัท



อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการสัมภาษณ์งานทุกที่ ทุกตำแหน่ง และเหมือนกับการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานแบบเดิม คือการศึกษาข้อมูลของบริษัทที่เราสมัคร เพราะจะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่บริษัทกำลังมองหาในตัวผู้สมัครได้ และยังทำให้เราสามารถนำเสนอตัวเองในทิศทางที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น


5.  เตรียมบทแนะนำตัวให้น่าสนใจ



ในการสัมภาษณ์งานนั้น ผู้สมัครต้องให้ความสำคัญกับการแนะนำตัว เพราะการแนะนำตัวนั้น เป็นกุญแจสำคัญของการสัมภาษณ์เลยก็ว่าได้ และสิ่งที่จะทำให้การแนะนำตัวของเราผ่านไปได้ด้วยดีคือ การเตรียมความพร้อม เตรียมบทแนะนำตัว ไม่ว่าจะเป็นประวัติการศึกษา ทักษะความสามารถของคุณ ประสบการณ์ที่ผ่านมา เป้าหมายในอาชีพ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย ซึ่งบทแนะนำตัวที่ดีควรจะมีความกระชับ น่าจดจำและเหมาะสมกับงานที่เรากำลังสัมภาษณ์ พร้อมกับการฝึกพูดแนะนำตัวเองให้คล่อง ลื่นไหล น้ำเสียงน่าฟัง พูดจาให้ฉะฉาน ชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงการแสดงสีหน้า การสบตาผู้สัมภาษณ์ ลักษณะท่าทางในการพูดก็ควรผ่านการฝึกซ้อมที่หน้ากระจกเพื่อเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือ ควรแสดงถึงความกระตือรือร้นในการมาสมัครงานครั้งนี้ของเราด้วย

  

6.  เตรียมเครื่องแต่งกายสุภาพ



การเตรียมเครื่องแต่งกายเพื่อสัมภาษณ์งานออนไลน์นั้น ควรทำให้เสมือนไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทเลย เช่น ไม่ควรให้ผมปิดบังหน้าตา ผู้หญิงควรแต่งหน้าโทนอ่อนๆ ไม่ใส่เครื่องประดับชิ้นใหญ่เกินไป สวมชุดที่เรียบร้อย สวมรองเท้าหุ้มส้นสีดำหรือสีอ่อน และถึงแม้ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งานออนไลน์ที่เห็นเพียงครึ่งตัวบนก็ควรจะแต่งกายให้เต็มยศทั้งตัว เพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้สมัครต้องยืนต่อหน้ากล้อง หรือเมื่อผู้สัมภาษณ์ให้ลุกขึ้นยืน

 

7. เลือกใช้บัญชีที่มีความมืออาชีพ



อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญสำหรับการสัมภาษณ์งานออนไลน์ คือ การเลือกใช้บัญชีในการเข้าสู่ระบบ E-mail หรือ Line ให้ดูเป็นมืออาชีพ มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถสมัครบัญชีใหม่ หรือเปลี่ยนชื่อและรูปภาพให้มีความเหมาะสม เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์ หรือบริษัท จดจำตัวเราได้ดีขึ้น และควรลบข้อความ หรือโพสต์ต่างๆ ที่แสดงทัศนคติในทางลบ เพื่อนั่นเป็นด่านแรกที่เหล่า HR จะใช้ตัดสินตัวตนของผู้สมัครในทันทีที่เห็น

 

8. ผู้สมัครต้องพร้อมทุกอย่างก่อนเวลานัดหมาย 1 ชม.



สุดท้ายและท้ายสุด ที่สำคัญในการสัมภาษณ์งานออนไลน์นั้นคือ “ความพร้อม” ทั้งร่ายกาย จิตใจ และทุกๆ สิ่งที่เตรียมการมาทั้งหมด ต้อง stand by  ณ สถานที่ที่เตรียมไว้ ก่อนเวลานัดหมาย 1 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสเกิดความผิดพลาดให้ได้มากที่สุด และทำสมาธิให้พร้อมรับมือกับทุกคำถามสัมภาษณ์งานจาก HR


สรุปการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานออนไลน์


เพียงเพราะว่าเป็นการสัมภาษณ์งานแบบออนไลน์ ที่ความตึงเครียดและความตื่นเต้นจะมีน้อยกว่าการไปนั่งเผชิญหน้ากันจริงๆ ทำให้ผู้สมัครหลายคนมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ขึ้น ทำให้คะแนนที่ควรจะได้มีน้อยลงไป ซึ่งหากผู้สมัครยอมเสียเวลาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อการเตรียมตัวดังข้อมูลที่กล่าวมา ซึ่งบางเทคนิคก็เป็นวิธีเดียวกับการสัมภาษณ์งานแบบดั้งเดิม แลงโอกาสในการเกิดความผิดพลาดก็จะน้อยลง ถึงไม่มีเลย และยังสามารถสร้างความประทับใจแรกผ่านการแนะนำตัวที่ยอดเยี่ยมได้อีก

จะทำให้ผู้สมัครสามารถเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น และอย่าลืมติดตามผลการสัมภาษณ์งานออนไลน์ด้วยว่า ผู้สมัครจะได้เข้าทำงานในบริษัทที่ต้องการหรือไม่

โปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วันครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้