“Flexible Hours” เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น นับว่าเป็นเรื่องที่พนักงานและองค์กรล้วนให้ความสำคัญ วันนี้เรามี 5 ข้อดีของการทำงานแบบ Flexible Hours มาฝาก ไปดูกันเลย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- 4 วิธีจัดการปัญหาสุขภาพจิตในที่ทำงาน ฉบับ HR
- 5 Tips แนวทางพัฒนาตนเองให้ทำงานได้อย่าง HealthyและProductive
- 6 เทคนิคแนะนำพนักงานทำงานอย่างไรไม่ให้เครียด สำหรับ HR
- Leadership Words ผู้นำที่ดีต้องรู้จักสื่อสารให้เป็น
การทำงานแบบ "Flexible Hours"
การทำงานแบบ Flexible Hours หรือ การทำงานแบบเวลาที่ยืดหยุ่น คือ รูปแบบการทำงานที่พนักงานสามารถเลือกเวลาเข้า - ออกงานได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีเวลากำหนดตายตัวว่า พนักงานต้องเข้างาน - ออกงานเวลาใด แต่มีเงื่อนไขว่า พนักงานต้องทำงานให้ครบตามจำนวนชั่วโมงที่องค์กรได้กำหนดไว้
วันนี้ HumanSoft มี 5 ข้อดีของการทำงานแบบ Flexible Hours ที่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบันมาฝากทุกท่าน การทำงานแบบ Flexible Hours จะมีข้อดีและตอบโจทย์การทำงานของพนักงานในปัจจุบันอย่างไร ไปติดตามกันเลย
5 ข้อดีของการทำงานแบบ Flexible Hours ที่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน
ในปัจจุบันการทำงานแบบ Flexible Hours มักได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นการทำงานที่สามารถเลือกเวลาการทำงานได้ด้วยตนเอง ไม่มีเวลาเข้า - ออกงาน ที่ตายตัว วันนี้เรารวบรวมข้อดีของการทำงานแบบ Flexible Hours ที่ตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบันมาฝาก ไปติดตามกันเลย
1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
พนักงานสามารถเลือกเวลาเข้า - ออกงานได้ด้วยตนเอง การที่พนักงานสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมกับตนเองได้ อาจทำให้การทำงานของพนักงานมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ดีที่สุด อีกทั้งการทำงานแบบ Flexible Hours ยังช่วยลดความเครียด และลดความเหนื่อยล้าจากการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ สุขภาพจิตของพนักงานก็จะดี สมองปลอดโปร่ง พร้อมทำงานได้อย่างเต็มที่
2. ลดมลพิษทางอากาศ
การทำงานแบบ Flexible Hours ช่วยลดจำนวนรถบนท้องถนน ในชั่วโมงเร่งด่วนได้ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย
3. สร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน
การทำงานแบบ Flexible Hours ช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานในการทำงานได้ เนื่องจาก พนักงานมีอิสระ สามารถเลือกเวลาการทำงานด้วยตนเองได้ตามสะดวก พนักงานสามารถควบคุมเวลาการทำงานของตนเองได้ การที่พนักงานได้มีอิสระในการเลือกเวลาการทำงาน ทำให้พนักงานมีแรงจูงใจ และทุ่มเทให้กับการทำงานมากยิ่งขึ้น
4. ชีวิตมีความสมดุล
การทำงานแบบ Flexible Hours ทำให้พนักงานสามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงานได้ ทำให้พนักงานสามารถจัดการเวลาและมีเวลาจัดกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น
5. รักษาพนักงานที่มีความสามารถ และดึงดูดพนักงานใหม่
ในปัจจุบัน เวลาของการทำงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงาน พนักงานรุ่นใหม่ และพนักงานที่มีครอบครัว มักให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Flexible Hours เนื่องจากพนักงานสามารถจัดการเวลาการทำงานของตนเองได้ ดังนั้น องค์กรที่มีข้อเสนอเกี่ยวกับการทำงานแบบ Flexible Hours นอกจากจะเป็นการรักษาฐานพนักงานที่มีความสามารถไว้กับองค์กรได้แล้ว สิ่งนี้ยังสามารถดึงดูดพนักงานคนใหม่ ให้เข้ามาร่วมงานกับองค์กรได้อีกด้วย
สรุป 5 ข้อดีของการทำงานแบบ Flexible Hours ที่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน
โดยสรุปแล้ว การทำงานแบบ Flexible Hours นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้พนักงานและองค์กร ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก เวลาการทำงานย่อมเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิต พนักงานแต่ละคนมีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน การเลือกเวลาการเข้า - ออกงานด้วยตนเองได้ จะทำให้พนักงานสามารถควบคุมเวลาการทำงาน ได้มีเวลาพักผ่อน และพนักงานก็จะมีความสุขกับการทำงานมายิ่งขึ้น หากพนักงานมีสุขภาพจิตดี พนักงานก็จะมีความคิดสร้างสรรค์ สมองปลอดโปร่ง พร้อมเปิดรับทักษะ ความรู้ใหม่ ๆ นำมาพัฒนาองค์กรให้บรรลุเป้าหมายได้