สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ช่วยเพิ่มกำลังใจให้พนักงาน พร้อมผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จ บทความนี้จะพานายจ้างมารู้จักกับสวัสดิการที่พนักงานไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ฯ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- สวัสดิการพนักงานยุคใหม่ ที่พนักงานอยากได้และน่าสนใจ
- สวัสดิการคืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้างตามที่กฎหมายกำหนด
- มัดรวมสวัสดิการเจ๋ง ๆ ที่ช่วยมัดใจพนักงานให้อยู่ยาว
- สวัสดิการที่ทุกบริษัทต้องมีตามกฎหมายแรงงาน
- บริหารสวัสดิการเงินกู้ยืมในองค์กรง่ายๆ ด้วยโปรแกรมงานบุคคล
- 10 สวัสดิการที่ “พนักงาน” ให้ความสำคัญมากที่สุด
ว่าด้วยเรื่อง “สวัสดิการพนักงาน”
สวัสดิการพนักงานเป็นเครื่องมือสำคัญที่องค์กรใช้เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานและเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าการศึกษา แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กร สวัสดิการที่ดีสามารถดึงดูดบุคลากรคุณภาพและช่วยรักษาคนเก่งให้อยู่กับองค์กรได้ในระยะยาว นอกจากนี้ การออกแบบสวัสดิการที่สอดคล้องกับกฎหมาย เช่น สวัสดิการที่ไม่ต้องเสียภาษี ยังช่วยลดต้นทุนด้านภาษีและเพิ่มผลตอบแทนที่พนักงานได้รับโดยตรง ทำให้ทั้งองค์กรและพนักงานได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน
Tips! อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> สวัสดิการคืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้างตามที่กฎหมายกำหนด <<
ความสำคัญของสวัสดิการไร้ภาษี
ในปัจจุบัน การสร้างความสุขและแรงจูงใจให้พนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องให้ความใส่ใจ สวัสดิการที่พนักงานไม่ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้พนักงาน พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีให้แก่องค์กร ดังนี้
1. ช่วยลดภาระทางการเงินของพนักงาน
สวัสดิการที่ไม่ต้องเสียภาษีช่วยเพิ่มรายได้สุทธิให้พนักงาน โดยไม่ต้องหักภาษีเพิ่มเติม ทำให้พนักงานมีความสุขและความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น
2. สร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจ
เมื่อพนักงานได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า พวกเขาจะมีความตั้งใจในการทำงานและพร้อมทุ่มเทเพื่อองค์กร ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว
3. เสริมภาพลักษณ์ขององค์กร
การเสนอสิทธิประโยชน์ที่ไม่ต้องเสียภาษีช่วยให้องค์กรดูใส่ใจพนักงานมากขึ้น ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถและช่วยรักษาพนักงานเก่าให้อยู่ต่อ
4. ลดต้นทุนขององค์กร
สวัสดิการบางประเภท เช่น การฝึกอบรมหรือการสนับสนุนค่ารักษาพยาบาล อาจได้รับการยกเว้นภาษี ทำให้องค์กรสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านภาษีได้
5. ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและพนักงาน
การมอบสวัสดิการที่ไม่ต้องเสียภาษีแสดงถึงความใส่ใจในความเป็นอยู่ของพนักงาน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่าย
6. เป็นแรงผลักดันสู่ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
พนักงานที่มีความสุขและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย จะสามารถโฟกัสกับการทำงานได้เต็มที่ ส่งผลให้องค์กรก้าวหน้าและประสบความสำเร็จมากขึ้น
สวัสดิการที่พนักงานไม่ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สวัสดิการที่ได้รับการยกเว้นจากกรมสรรพากรไม่ต้องนำมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีดังนี้
1. ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง
ตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร กฎกระทรวงฉบับที่ 126 และพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง มีการยกเว้นภาษีสำหรับค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทางในกรณีดังนี้:
• ค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าพาหนะที่จ่ายตามหน้าที่
ลูกจ้างหรือผู้ปฏิบัติงานจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าพาหนะด้วยความสุจริตและจำเป็น เพื่อปฏิบัติงานตามหน้าที่ของตน
• ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทางตามอัตรารัฐบาลกำหนด
การจ่ายค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทางเป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา
• ค่าเดินทางในกรณีพิเศษ
เงินค่าเดินทางที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างเฉพาะส่วนที่ลูกจ้างจ่ายจริง เพื่อเดินทางจากต่างถิ่นมารับงานครั้งแรก หรือเดินทางกลับถิ่นเดิมหลังสิ้นสุดการจ้าง โดยไม่รวมกรณีเดินทางกลับถิ่นเดิมหรือมารับงานใหม่กับนายจ้างเดิมภายใน 365 วันหลังสิ้นสุดการจ้างครั้งก่อน
2. รถรับ-ส่งพนักงาน
บริการรถรับ-ส่งพนักงานที่นายจ้างจัดให้ตามเส้นทางและเวลาที่กำหนดชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานโดยรวม และสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท จะไม่ถือว่าเป็นผลประโยชน์ที่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
3. ค่ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทจ่ายให้พนักงาน ตามจำนวนที่พนักงานจ่ายจริงในการรักษาพยาบาล จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 2(4)(ก) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)
4. ค่าเบี้ยประกัน
กรณีค่าเบี้ยประกันภัยกลุ่มที่บริษัทจ่ายให้พนักงาน จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามข้อ 2(77) แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (เฉพาะส่วนที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล) ส่วนประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ไม่ใช่ประกันภัยกลุ่ม จะถือเป็นรายได้ของพนักงานตามมาตรา 40(1) และต้องนำมารวมคำนวณภาษีตามมาตรา 56
5. ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จะได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยกเว้นกรณีค่าชดเชยที่ได้รับจากการเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง รวมถึงเงินชดเชยจากการถูกเลิกจ้าง ซึ่งใน 300 วันสุดท้ายก่อนการเลิกจ้าง หากได้รับไม่เกิน 300,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษี แต่ไม่รวมเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ได้รับจากการทำงานปกติ
6. เงินได้ที่ลูกจ้างจ่ายเป็นเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินสะสมที่ลูกจ้างจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมาย จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยอัตราการสะสมไม่เกิน 15% ของค่าจ้างที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 490,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น โดยการยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป
7. ค่าคลอดบุตร
เงินช่วยเหลือค่าคลอดบุตรที่บริษัทจ่ายให้พนักงานทั่วไปตามระเบียบของบริษัท จะถือเป็นค่ารักษาพยาบาลที่นายจ้างจ่ายให้หรือจ่ายแทนลูกจ้าง สำหรับการรักษาพยาบาลของลูกจ้าง คู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรที่อยู่ในความอุปการะของลูกจ้าง โดยการยกเว้นภาษีนี้จะครอบคลุมเฉพาะการรักษาพยาบาลที่ดำเนินการในประเทศไทย และไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 42(17) แห่งประมวลรัษฎากร และข้อ 2(4)(ก) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 126 พ.ศ. 2509
8. เครื่องแบบพนักงาน
เงินได้จากเครื่องแบบที่นายจ้างจัดให้พนักงาน จะได้รับการยกเว้นภาษี หากเป็นจำนวนไม่เกินสองชุดต่อปี และเสื้อนอกไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี โดยค่าชุดฟอร์มและค่าตัดจะไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีตามกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (34)
*เครื่องแบบ หมายถึง เสื้อผ้าที่ต้องใส่เพื่อปฏิบัติงาน รวมถึงสิ่งประกอบ เช่น เนกไท หรือหมวก แต่ไม่รวมรองเท้าที่ใช้ทั่วไป ชุดชั้นใน หรือสิ่งตกแต่งที่ทำจากโลหะหรืออัญมณีมีค่า เช่น เงิน ทองคำ ทับทิม และหยก
*เสื้อนอก หมายรวมถึงชุดไทยพระราชทาน และเสื้อที่ใช้ในการแต่งกายไปงานสำคัญต่าง ๆ
สรุป สวัสดิการไร้ภาษี เพิ่มคุณค่าให้พนักงาน เพิ่มผลลัพธ์ให้องค์กร
สวัสดิการพนักงานเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างแรงจูงใจในการทำงาน การออกแบบสวัสดิการที่ได้รับการยกเว้นภาษีไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของพนักงาน แต่ยังเพิ่มรายได้สุทธิ ทำให้พนักงานมีความสุขและความมั่นคงทางการเงิน ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานและภาพลักษณ์ขององค์กร ตัวอย่างสวัสดิการที่ได้รับการยกเว้นภาษี ได้แก่ ค่าพาหนะและเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยตามกฎหมาย ค่าประกันภัยกลุ่ม และเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังช่วยลดต้นทุนภาษีให้กับองค์กร การมอบสวัสดิการที่ดีส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรกับพนักงาน และช่วยดึงดูดบุคลากรคุณภาพให้มาร่วมงานและอยู่กับองค์กรในระยะยาว