ทำความรู้จักกับ “เดบิตและเครดิต” เคล็ดลับการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้การใช้สองสิ่งนี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในฐานะทางการเงินสำหรับธุรกิจของคุณ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
- แจก Template บัญชีรายรับรายจ่าย สำหรับผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ
- เทคนิคการเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจ
- บริการรับทำเงินเดือนทางออกที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล
- ผู้ประกอบการต้องรู้! ใบเสร็จรับเงิน หากไม่ให้มีความผิดแน่นอน
- HR Payroll คืออะไร ทำหน้าที่อะไร ต้องมีทักษะที่จำเป็นด้านใด
ว่าด้วยเรื่อง “บัญชีเบื้องต้น”
การทำบัญชี คือ กระบวนการเก็บบันทึก จำแนก สรุป ติดตาม และรายงานธุรกรรมทางการเงินของธุรกิจหรือบุคคล เพื่อให้สามารถเข้าใจสถานะทางการเงินได้อย่างชัดเจน โดยทั่วไปการบันทึกบัญชี สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบบัญชีเดี่ยว คือการทำบัญชีโดยบันทึกข้อมูลการเงินไว้ด้านเดียวกันทั้งหมด เน้นบันทึกรายรับและรายจ่ายประจำวันที่ไม่ซับซ้อนเพื่อให้ทราบรายละเอียดการใช้จ่ายเงิน เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่เจ้าของธุรกิจจัดทำบัญชีเอง และระบบบัญชีคู่ คือการบันทึกบัญชีตามหลักสมการบัญชี โดยบันทึกข้อมูลการเงินแบบแบ่งข้อมูลออกเป็นสองด้าน ได้แก่ ข้อมูลด้านเดบิตและข้อมูลด้านเครดิต เพื่อให้เกิดความสมดุลทางบัญชี เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ที่มีรายการบัญชีซับซ้อน
รู้จักกับ “เดบิต เครดิต”
เดบิต (Debit) และเครดิต (Credit) เป็นพื้นฐานสำคัญในทางบัญชีที่ใช้บันทึกและจัดการธุรกรรมทางการเงินในระบบบัญชีคู่ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาสมดุลของงบการเงินและทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกรรมทั้งหมดถูกบันทึกอย่างถูกต้องและครบถ้วน การทำงานของเดบิตและเครดิตจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของรายการบัญชี 5 หมวด ดังนี้
• สินทรัพย์ เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร ลูกหนี้การค้า ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ เป็นต้น
• หนี้สิน เช่น เจ้าหนี้การค้า เงินเดือนค้างจ่าย ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เป็นต้น
• ส่วนของเจ้าของ เช่น ทุน กำไรสะสม เป็นต้น
• รายได้ เช่น ยอดขาย และรายได้อื่น ๆ
• ค่าใช้จ่าย เช่น เงินเดือน ค่าเช่า ค่าไฟฟ้า เป็นต้น
สมการบัญชีเดบิต เครดิต
สมการบัญชีเดบิตและเครดิต คือสมการที่แสดงความสัมพันธ์ ระหว่างสินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนเจ้าของ โดยจะแสดงความสมดุลแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านเดบิตกับด้านเครดิต ดังนี้
• เดบิต (Debit หรือ Dr.) เป็นการบันทึกข้อมูลการเงินด้านซ้ายของสมการ ประกอบไปด้วย สินทรัพย์ และค่าใช้จ่าย
• เครดิต (Credit หรือ Cr.) เป็นการบันทึกข้อมูลการเงินที่ด้านขวาของสมการ ประกอบไปด้วย หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ และรายได้
เมื่อรวมข้อมูลแต่ละด้านออกมา จะต้องมียอดเท่ากันตามหลักสมการบัญชี ดังนี้
สินทรัพย์ + ค่าใช้จ่าย = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ + รายได้
ตัวอย่างการบันทึกรายการเดบิต เครดิต
1. นาย A ผู้เป็นเจ้าของกิจการนำเงินสดมาลงทุนเปิดบริษัท จำนวน 3,000,000 บาท เป็นเงินของตัวเอง 1,800,000 บาท และเป็นเงินกู้ยืมมา 1,200,000 บาท สามารถบันทึกรายการได้ดังนี้
2. บริษัทมีการจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานเป็นเงินเชื่อ จำนวน 50,000 บาท บันทึกรายการได้ดังนี้
3. บริษัทมีรายได้เป็นจำนวนเงิน 800,000 บาท แบ่งเป็นเงินสด 500,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นเงินผ่อนชำระภายหลัง บันทึกรายการได้ดังนี้
จากตัวอย่างแสดงการวิเคราะห์รายการบัญชี แยกเป็นรายการเดบิตและเครดิตโดยบันทึกบัญชีตามหลักบัญชีคู่ จะเห็นได้ว่าเดบิตและเครดิตเป็นสัญลักษณ์แสดงการเคลื่อนไหวของบัญชี โดยที่เดบิตจะแทนด้านซ้าย และเครดิตแทนด้านขวา ทั้งนี้การบันทึกเดบิตและเครดิตที่สมดุลกันในแต่ละธุรกรรมจะช่วยให้บัญชีของธุรกิจมีความถูกต้องและครบถ้วน ทำให้ง่ายและสะดวกต่อการตรวจสอบบัญชี
สรุป เดบิต Debit & เครดิต Credit กับการวางแผนการเงินสำหรับธุรกิจ
การบันทึกบัญชีแบบเดบิตและเครดิตเป็นระบบที่ช่วยให้การจัดการและติดตามสถานะทางการเงินของธุรกิจหรือบุคคลง่ายขึ้น ระบบนี้ช่วยให้การบันทึกธุรกรรมทางการเงินมีความถูกต้อง สามารถป้องกันข้อผิดพลาด และรักษาสมดุลในงบการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการบันทึกแบบคู่นั้นสามารถตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึกได้ทันที หากยอดรวมของเดบิตและเครดิตไม่เท่ากัน แสดงว่ามีข้อผิดพลาดที่ต้องตรวจสอบและแก้ไข นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถวางแผนการเงินและการบริหารจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรู้จักการใช้เดบิตและเครดิตในทางบัญชีจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้การบันทึกข้อมูลเป็นไปอย่างถูกต้อง แต่ยังส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถเติบโตและดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคงในระยะยาว