ในปัจจุนันมักจะได้ยินเรื่อง Affiliate Marketing ซึ่งเป็นช่องทางหารายได้อีกหนึ่งช่องทาง แต่มีวิธีการยังไง และในประเทศไทยมีที่ไหนบ้าง มาดูกันในบทความนี้

บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ :

Affiliate Marketing คืออะไร?

Affiliate Marketing คือรูปแบบการทำตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ให้บุคคลหรือบริษัทอื่นสามารถโปรโมตสินค้า บริการผ่านช่องทางของบุคคลนั้นเอง เช่น การใช้สื่อออนไลน์ หรือสร้างเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าจากช่องทางที่สร้างขึ้น โดยบุคคลหรือบริษัทนั้นจะได้รับค่าตอบแทนจากแบรนด์สินค้าที่เราทำตลาดให้ โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้

1. Seller and Brand : เจ้าของแบรนด์สินค้าที่ว่าจ้าง

2. The Affiliate or Publisher or Influencer : บุคคลหรือบริษัทที่ทำการโปรโมตผ่านช่องทางของตนเอง

3. Customer : กลุ่มผู้บริโภคที่ติดตาม Publisher ในช่องทางต่างๆ โดยซื้อสินค้าและบริการผ่านการโปรโมตของ Publisher

ประเภทของ Affiliate Marketing

Unattached Affiliate Marketing

เป็นการทำ Affiliate Marketing แบบไม่ผูกมัด โดยคนที่ทำแคมเปญนี้จะเป็นแบบ PPC (Pay Per Click) เพียงนำลิงค์สินค้าไปแปะไว้ในช่องทางของตนเอง เมื่อมีคนมาซื้อสินค้า ก็จะได้รับค่า Commission กลับไป ไม่จำเป็นต้องใช้สินค้าจริง ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ และกลุ่มที่ติดตามก็เป็นกลุ่มกว้าง ๆ ไม่ใช่กลุ่ม Niche

Related Affiliate Marketing

คือการที่แบรนด์ ทำ Affiliate Marketing กับ Influencer ที่ทำคอนเทนต์ในรูปแบบบล็อก, YouTube, TikTok หรืออื่น ๆ ที่มีกลุ่มผู้ติดตามเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์โดยเฉพาะ (Niche Target) เช่น เมื่อแบรนด์ A ส่งเครื่องสำอางไปให้ Influencer รีวิว (ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้จริงก็ตาม) แล้วผู้ติดตามเกิดชอบขึ้นมาก็สามารถกดซื้อผ่านลิงก์นั้นได้นั่นเอง โดยเมื่อมีผู้ซื้อเยอะ ก็จะได้ค่า Influencer ก็จะได้ค่า Commission เยอะไปด้วย

Involved Affiliate Marketing

คือการที่แบรนด์ ให้ Influencer ไปทดลองใช้สินค้าจริงๆ หลังจากนั้นก็เอาความรู้สึกหลังจากใช้งานมารีวิวให้ฟัง ซึ่งเป็นการตลาดที่จริงใจต่อผู้บริโภคมากกว่า และสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า แต่จะใช้เวลานานกว่าทั้ง 2 แบบข้างต้น (ไม่ใช่แค่ PPC แล้วจบ) แต่จะเป็นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า

วิธีการทำ Affiliate Marketing

วางแผน เพื่อกำหนดแนวทางว่าอยากจะเป็น Influencer ด้านไหน เช่น ด้านท่องเที่ยว, อาหาร หรือกีฬา เพราะความชัดเจนนี้จะช่วยให้แบรนด์มองเห็นช่องทางในการร่วมงานกับเรา
เลือกและสร้างช่องทาง มองหาช่องทางที่เหมาะกับบุคลิกเราให้มากที่สุด เช่น เว็บไซต์, บล็อก, Facebook Page , Instagram , TikTok ฯลฯ แล้วสร้างช่องทางให้แฟนคลับเข้าถึงช่องทางของเราให้มากที่สุด เพื่อโอกาสได้รับการติดต่อจากแบรนด์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเลย จะรุ่งหรือจะล่วงก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้เลย
สมัคร Affiliate Program
นำลิงก์ไปโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ของคุณ เช่น เว็บไซต์, บล็อก หรือ Facebook
ถ้ามีคนมาซื้อสินค้าหรือบริการ ผ่านลิงก์ของคุณ คุณจะได้รับค่า Commission

รูปแบบรายได้ของ Affiliate Marketing

มีด้วยกันอยู่หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละบริษัท โดยมีรูปแบบดังนี้

1. Pay per Sale (PPS)

เป็นการจ่ายเงินให้ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากราคาของสินค้าที่แบ่งให้ Influencer หรือ Publisher หลังจากมีการซื้อสินค้านั้นแล้ว

2. Pay per Lead (PPL)

เป็นการจ่ายเงินให้ จากการเก็บ Lead เมื่อผู้บริโภคลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิกกับทางแบรนด์ ผ่านลิงค์ที่ Influencer หรือ Publisher สร้างขึ้นในช่องทางของตน

3. Pay per Click (PPC)

เป็นการจ่ายเงินให้ เมื่อผู้บริโภคคลิกโฆษณาผ่านช่องทางที่ Influencer หรือ Publisher สร้างไว้ โดยไม่กำหนดว่าผู้ซื้อต้องซื้อสินค้าหรือไม่ เพียงแค่คลิก Publisher ก็ได้รับเงินแล้ว

Affiliate Marketing ในไทยมีอะไรบ้าง

หลังจากรู้จักการทำ Affiliate Marketing กันไปแล้ว ต่อไปมาดูกันว่าในประเทศไทยนั้นมี Affiliate Marketing หลักๆ เจ้าไหนอยู่บ้าง

1. Accesstrade

เป็น Affiliate Platform ที่อยู่คู่กับคนไทยมากนาน ตั้งแต่ 2013 มีฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ใหญ่ที่สุดในวงการเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Publisher สายไหน ก็สามารถร่วมงานได้ทั้งหมด

2. Lazada

Lazada Affiliate Program เป็น Platform ชื่อดังที่แทบไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งให้ค่า Commission สูงถึง 40% พร้อมกับระบบที่ใช้งานง่าย และช่วยบันทึกยอดขาย Tracking ยอด Conversion ได้แม่นยำสุดๆ มีสินค้าให้เลือกเยอะ

3. Involve Asia

เป็นบริษัท Affiliate ที่มีสาขาทั่วเอเชีย สามารถโปรโมทได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีสินค้าแบรนด์ชั้นนำให้เลือกโปรโมทหลากหลาย ในด้าน Commission ก็แตกต่างกันไปหลายรูปแบบ มีทั้ง CPC หรือ Cost per click จ่ายค่าคอมต่อคลิก, CPA หรือ Cost Per Action จ่ายค่าคอมอย่างรวดเร็วเมื่อมียอดขายเกิดขึ้น แถมยังมี Account Manager คอยให้คำแนะนำอีกด้วย

4. Priceza

เป็น Website ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้า พร้อมกับ Affiliate Program ที่สามารถเลือกสินค้ามาโปรโมทผ่านช่องทางของตนเอง ด้านการจ่ายเงินจะเป็นระบบ CPS โดยมีสินค้าแบรนด์ดังมาเข้าร่วมมากมาย

5. Shopee

ปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็น Shopee Affiliate Program ที่ได้รับความนิยมสุดๆ แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงสุดๆ ด้วยเช่นกัน สามารถเลือกวิธีการโปรโมทสินค้าได้ตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิว, เขียน Content หรือ การเปรียบเทียบสินค้าต่างๆ เมื่อมีลูกค้ากดซื้อสินค้าผ่านลิงค์ ก็จะได้รับค่า Commission โดยค่า Commission ของสินค้าในแต่ละชิ้นก็จะแตกต่างกันออกไป เป็นการหารายได้แบบไม่ต้องลงทุน แถมเพื่อนได้สินค้า เราได้ค่า Commission

6. Tiktok

เปิดโอกาสให้กับ Influencer ที่มียอดติดตาม 1,000 คน ขึ้นไป เข้าร่วมทำ Affiliate โดยมีความแตกต่างจาก Platform อื่นๆ เพราะผู้ใช้งานสามารถทำคลิปรีวิวสินค้าสั้นๆ แล้วแปะลิงค์ตะกร้าสินค้านั้นที่คลิปได้เลย แถมยังเพิ่มตะกร้าสินค้านั้นไปที่ช่อง Tiktok ของตัวเองได้อีกด้วย ส่วนค่า Commission ของสินค้าแต่ละชิ้นก็จะแตกต่างกันไป

นอกจากนี้ยังมี Affiliate Marketing ในไทยเจ้าอื่นๆ อีกมากมายในปัจจุบัน เช่น Agoda, Canva, Sellxabuyและ Ecomobi เป็นต้น

สรุป Affiliate Marketing

การทำ Affiliate Marketing จริงๆ ไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้อย่างอิสระ ไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ ทำให้กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย รวมถึงเป็นการวางแผนกลยุทธ์ที่สามารถเพิ่มช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs เจ้าของสินค้าและบริการ ทำให้ Win-Win กันทั้งสองฝ่าย ยิ่ง Content ดี มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ ก็จะยิ่งช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น